การป้องกัน โรคหัดในเด็กเล็ก ที่ดีที่สุด คือ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด ให้ครบตามกำหนด

หน้าแรก/สุขภาพเด็ก/การป้องกัน โรคหัดในเด็กเล็ก ที่ดีที่สุด คือ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด ให้ครบตามกำหนด
การป้องกัน โรคหัดในเด็กเล็ก ที่ดีที่สุด คือ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด ให้ครบตามกำหนด

นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้กล่าวถึง โรคหัดในเด็กเล็ก ว่าโรคนี้พบได้ในเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัด มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและเสียชีวิตได้ โรคหัด ติดต่อกันได้ง่ายโดยการหายใจเอาเชื้อโรค ซึ่งอยู่ในละอองน้ำลายและน้ำมูกของผู้ป่วยขณะไอ จาม เข้าสู่ร่างกาย

อาการผู้ป่วย โรคหัดในเด็กเล็ก จะมีไข้ น้ำมูกไหล ไอ ตาแดง มีผื่นขึ้นในวันที่ 4 ของไข้ ลักษณะผื่นนูนแดงติดกันเป็นปื้นๆ ผื่นจะขึ้นที่หน้าบริเวณชิดขอบผมแล้วกระจายไปตามลำตัว แขน ขา ไข้จะเริ่มลดลง ผื่นมีสีเข้มขึ้นเป็นสีแดงคล้ำและจะจางหายไป

การป้องกันที่ดีที่สุด คือ ให้วัคซีนป้องกันโรคหัด 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเด็กอายุ 9-12 เดือน และครั้งที่สองเมื่ออายุ 2 ปีครึ่ง ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานไปรับวัคซีนตามนัด ส่วนในผู้ใหญ่ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนควรได้รับวัคซีน 1 เข็ม โดยให้วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน จะช่วยป้องกันโรคหัดและโรคแทรกซ้อนอันตรายอื่นๆ ที่อาจเกิดตามมาได้


โรคหัดในเด็กเล็ก

โรคหัด (Measles) เป็นไวรัสในตระกูล Paramyxoviridae ติดต่อโดยการไอ จาม หรือพูดกันในระยะใกล้ชิด โดยเชื้อไวรัสจะกระจายอยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยและเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ เมื่อผู้ป่วยหายใจเอาละอองที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส (air borne) เข้าไปทําให้เกิด การติดเชื้อและเป็นโรคได้

โดยทั่วไปผู้ป่วยหัด จะมีเชื้อไวรัสในลําคอและแพร่เชื้อได้ในระยะจาก 1-2 วัน ก่อนที่จะเริ่มมีอาการ (3 ถึง 5 วัน ก่อนผื่นขึ้น) ไปถึงระยะหลังผื่นขึ้นแล้ว 4 วัน

ระยะฟักตัว : โดยเฉลี่ยระยะฟักตัวของโรคเริ่มจากระยะสมผัส ถึงมีอาการประมาณ 14 วัน (ช่วงระหว่าง 8-12 วัน)

อาการคล้ายคลึงกับอาการของไข้หวัดธรรมดา คือ เป็นไข้ น้ำมูกไหล ไอ หลังจากนั้นจะมีไข้สูง ตาแดงก่ำ และแฉะ เวลาโดนแสงจะแสบตา ระคายเคือง ทําตาหยีไอและมีน้ำมูกมาก ปากและ จมูกแดง เด็กอาจจะมีไข้สูงประมาณ 3 – 4 วัน จึงเริ่มมีผื่นจากหลังหู ลามไปยังหน้าและร่างกาย ลักษณะผื่นนูนแดง ติดกันเป็นปื้นๆ โดยจะขึ้นที่หน้าบริเวณชิดขอบผม แล้วแผ่กระจายไปตามลําตัว แขน ขา และอาจพบจุดขาวๆ เล็กๆ มีขอบสีแดงๆ อยู่ในกระพุ้งแก้ม เรียกว่า Koplik’s spots

ถ้าผื่นออกแล้ว 3-4 วัน แต่ไข้ยังสูงอยู่ หรือว่าไข้ลงวันเดียวแล้วก็ขึ้นอีก ไอมาก และ หอบ แสดงว่าผิดปกติ อาจมี ปอดบวมหรือหลอดลมอักเสบแทรกได้ ต้องรีบพาไปพบแพทย์ทันที

ป้องกันโรค : หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย และฉีดวัคซีนปองกันโรค ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขให้ วัคซีนป้องกันโรคหัด 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเด็กอายุ 9-12 เดือน โดยให้ในรูปของวัคซีนรวม ป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน และให้ซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง เมื่อเด็ก เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ข้อมูลจาก ฝ่ายไวรัสระบบประสาทและระบบไหลเวียนโลหิต สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข