ลูกมีไข้ ผิวลอกเป็นแผ่น อาจติดเชื้อแบคทีเรีย โรค 4S แค่สัมผัสก็ติด พบมากในเด็กทารก

หน้าแรก/สุขภาพเด็ก/ลูกมีไข้ ผิวลอกเป็นแผ่น อาจติดเชื้อแบคทีเรีย โรค 4S แค่สัมผัสก็ติด พบมากในเด็กทารก
ลูกมีไข้ ผิวลอกเป็นแผ่น อาจติดเชื้อแบคทีเรีย โรค 4S แค่สัมผัสก็ติด พบมากในเด็กทารก

โรค 4S หรือชื่อ Staphylococcal Scalded Skin Syndrome อาจเป็นโรคที่ไม่คุ้นหู โรคนี้เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ Staphylococcus aureus โดยเชื้อแบคทีเรียจะปล่อยท็อกซิน ออกมาทำให้ชั้นผิวหนังกำพร้ามีการหลุดลอกแบบตื้นๆ พร้อมเผยวิธีการรักษาของแพทย์

นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีการเสนอข่าว เฟซบุ๊กชื่อว่า “คุณหญิง ฉัตรเพชรฯ” โดยเล่าเรื่องราวของเด็กหญิงอายุ 5 เดือน 5 วัน ป่วยเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งมีอาการผิวหนังเริ่มด้วยอาการหลุดลอกมีจุดเล็กๆ สีเหลือง หนังที่แดงเริ่มปริออกเหมือนคนถูกน้ำร้อนลวก ผิวหนังแดงที่เบ้าตา 2 ข้าง รอบปาก ร้องงอแง ซึ่งได้ไปพบแพทย์ วินิจฉัยว่าเด็กมีการติดเชื้อทางผิวหนังอย่างรุนแรง ต้องให้ยาปฏิชีวนะ ถ้าไม่ทันอาจติดเชื้อเข้ากระแสเลือดถึงแก่ชีวิต จากข้อมูลดังกล่าวพบว่าโรคนี้พบได้บ่อยในกลุ่มเด็กทารก และเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี รวมถึงมีโอกาสเกิดกับผู้ใหญ่ที่มีโรคไตด้วย เนื่องจากไม่มีภูมิต้านทานต่อท็อกซินและไตไม่สามารถทำงานได้ดีในการขับท็อกซินออกไปจากร่างกาย

อาการของ โรค 4S คือ เด็กจะมีอาการไข้ อ่อนเพลีย ตัวแดง ร้องงอแง เจ็บบริเวณผิวหนัง โดยอาจมีน้ำมูกไหล มีหนอง เยื่อบุตาอักเสบ ติดเชื้อแบคทีเรียที่สะดือ หูน้ำหนวก หากไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เชื้อกระจายมากขึ้นหรือได้รับเชื้อโรคจากผู้ที่เป็นพาหะของเชื้อดังกล่าวได้

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ลักษณะผื่นที่ผิวหนัง คือ มีผิวแดงและเจ็บ พบได้บ่อยบริเวณใบหน้า ผื่นรอบตา รอบปาก ก้น ซอกพับ ผื่นสามารถกระจายไปทั่วตัวอย่างรวดเร็วใน 1 – 2 วัน  จากนั้นจะสังเกตเห็นการลอกของผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการแยกตัวของหนังกำพร้าชั้นตื้น มีแผลถลอกตื้นๆ หรือเป็นแผ่นและสะเก็ด ลักษณะจำเพาะ คือ สะเก็ดลอกจะเรียงเป็นเส้นๆ ในแนวรัศมี รอบปาก และดวงตา การวินิจฉัยแยกโรค ต้องแยกกับอาการแพ้ยา โรคคาวาซากิ ผิวไหม้จากแดด

การรักษา โรคนี้รักษาให้หายได้ด้วยยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำเพื่อกำจัดเชื้อที่สร้างท็อกซิน ให้สารน้ำให้เพียงพอเนื่องจากผู้ป่วยมีการสูญเสียน้ำทางผิวหนังมากกว่าปกติ สำหรับการรักษาจะเป็นการรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้และแก้ปวด ร่วมกับการดูแลแผล โดยผิวหนังจะหายเป็นปกติหลังจากผื่นหาย อย่างไรก็ตาม ในเด็กเล็กหรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ จะต้องระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิด เช่น ภาวะขาดสารน้ำ ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต


โรค 4S

โรค 4S หรือ Staphylococcal Scalded Skin Syndrome คืออะไร?
โรค 4S คือการติดเชื้อที่ผิวหนังที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus โดยอาจเกิดจากการสัมผัส ซึ่งหากเกิดการติดเชื้อแล้ว ร่างกายจะทำการหลั่งสารพิษ (toxin) ออกมา ทำให้ร่างกายมีการทำปฏิกิริยากับสารพิษ (toxin) โดยตำแหน่งที่พบการติดเชื้อได้บ่อยนั้น คือ สะดือ ทางผิวหนัง เยื่อบุตา จมูก คอ ทางเดินปัสสาวะ และการติดเชื้อในกระแสเลือด

ลักษณะอาการของโรค 4S หรือ Staphylococcal Scalded Skin Syndrome
ผู้ป่วยจะมีไข้ ผื่นแดงทั่วตัวคล้ายกับน้ำร้อนลวก มีสะเก็ดตามผิวหนังแห้งตึงเหมือนคนตากแดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามซอกข้อพับ รอบปาก และตา ทำให้เกิดผิวหนังลอกหลุดเป็นแผ่น ๆ มีอาการแสบ เจ็บแผล ซึ่งทำให้ติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้น

ทำไม? โรค 4S หรือ Staphylococcal Scalded Skin Syndrome จึงมักเกิดกับเด็ก
เนื่องจากในเด็กนั้นยังไม่มีภูมิคุ้มกันกับสารพิษ (toxin) ทำให้ผู้ป่วยโรค 4S ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กแรกเกิดก่อน 28 วัน แต่ ผู้ใหญ่ก็สามารถมีสิทธิเสี่ยงเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน อาทิ มีแผล หนอง ตามร่างกาย เพราะเชื้อ 4S จะมีอยู่ตามผิวหนังของเราทุกคน เพียงแค่ร่างกายของผู้ใหญ่นั้นสามารถที่จะป้องกันการติดเชื้อและกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้

วิธีการรักษาโรค 4S หรือ Staphylococcal Scalded Skin Syndrome
แนวทางการรักษา คือ การให้สารน้ำหรือการให้น้ำเกลือ และดื่มนมให้เพียงพอ ทายาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว การให้ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อ คลอกซาซิลลิน (Cloxacillin)

การตรวจเช็คเยื่อบุตาว่ามีอาการผิดปกติไหม ถ้ามีอาการแห้งแตก อาจหยอดน้ำตาเทียมหรือใส่ยาที่เปลือกตา และนอนโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าระวังอาการไม่ให้เกิดการติดเชื้อลุกลาม อย่างน้อย 5-7 วัน ในห้องที่ปราศจากเชื้อแบคทีเรีย

โดยในช่วงแรกที่เป็นโรค 4S จะไม่ให้อาบน้ำ เนื่องจากจะทำให้ผิวหนังมีความแห้งแตกมากกว่าเดิม หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน คือติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้เป็นปอดอักเสบ หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้

วิธีป้องกันโรค 4S หรือ Staphylococcal Scalded Skin Syndrome
การป้องกันที่ดี คือ ทำความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะในเด็กแรกเกิด ควรมีการอาบน้ำเด็กอย่างถูกวิธี ทำความสะอาดตรงบริเวณสะดือ เช้า เย็น หรือหลังจากอาบน้ำ ให้เช็ดสะดือด้วยแอลกอฮอล์ โดยให้ดึงสายสะดือขึ้นเช็ดวนเพียงรอบเดียวให้ถึงโคนสะดือ หากสะดือยังไม่สะอาดให้เช็ดด้วยสำลี หรือก้านสำลีอันใหม่อีกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

บทความโดย พญ.อุรารมย์ พันธุมะผล
กุมารแพทย์ทารกแรกเกิดและปริกำเนิด ศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลพญาไท2