5วิธี เลี้ยงลูกยุคดิจิทัล ให้มีพัฒนาการที่ดีเติบโตสมวัย รู้จักเท่าทันโลก

หน้าแรก/วิธีเลี้ยงลูก/5วิธี เลี้ยงลูกยุคดิจิทัล ให้มีพัฒนาการที่ดีเติบโตสมวัย รู้จักเท่าทันโลก
5วิธี เลี้ยงลูกยุคดิจิทัล ให้มีพัฒนาการที่ดีเติบโตสมวัย รู้จักเท่าทันโลก

การเลี้ยงลูก ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะการเปิดประตู สู่โลกกว้างแห่งการเรียนรู้ไม่ได้จำกัดที่พ่อแม่เพียงอย่างเดียวอีกแล้ว ลูกสามารถเลือกที่จะรับรู้ได้ด้วยตัวเอง ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆได้เองเช่นกัน ฉะนั้น สิ่งที่พ่อแม่ต้องเข้าใจในการ เลี้ยงลูกยุคดิจิทัล ก็คือ เลี้ยงลูกอย่างไรให้เด็กๆ มีพัฒนาการที่ดีเติบโตสมวัย พร้อมกับสร้างเกราะป้องกันในโลกยุคดิจิทัล ที่ทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัยและรู้จักเท่าทันโลก
เมื่อไม่นานนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ในฐานะผู้จัดโครงการ “Healthy Digital Family เสพสื่อ ใช้สติ มีสไตล์ ให้สตรอง” จึงได้จัดเสวนาหัวข้อ “เลี้ยงลูกอย่างสร้างสรรค์ ตามความฝันด้วยความสุข” เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้ถึงแนวทาง และความสำคัญของการใช้สื่อในยุคดิจิทัล และสามารถนำมาปรับใช้กับลูกน้อยได้อย่างสร้างสรรค์ โดยได้รับเกียรติจาก พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล แพทย์ประจำกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด โรงพยาบาลตำรวจ ร่วมพูดคุยและให้ความรู้

เตรียมความพร้อมในทุกด้าน
เพราะเทคโนโลยีที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่สามารถปฏิเสธโลกดิจิทัลได้ แต่ทุกคนสามารถเตรียมพร้อมและ เลี้ยงลูกยุคดิจิทัล ให้เรียนรู้ที่จะใช้สื่อออนไลน์ด้วยเทคนิคและความเข้าใจในช่วงวัยของลูก ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ในทุกด้านคือ

  • ด้านร่างกาย ต้องมีสุขภาพแข็งแรง สอนให้ลูกเคลื่อนไหวร่างกายเสมอ เพื่อให้เป็นคนตื่นตัวตลอดเวลา
  • ด้านจิตใจ เด็กต้องรู้สึกเป็นที่รักของพ่อแม่และครอบครัว เพื่อพัฒนาต่อไปเป็นความภูมิใจในตัวเอง
  • ด้านสมองและความคิด พ่อแม่ต้องสอนให้เด็กรู้จักคิดเป็นแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้

การดูแลใส่ใจจากพ่อแม่และครอบครัวถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องไม่มากเกินไปจนส่งผลกระทบและสร้างความกดดันแก่ลูกได้ พ่อแม่ควรสังเกตพัฒนาการ ความสามารถ และความถนัดของลูก ว่ามีความชอบด้านไหน ชอบทำกิจกรรมอะไร หรือมีพรสวรรค์ด้านใด แล้วมุ่งส่งเสริมให้ลูกทำในสิ่งที่ชอบ เพื่อให้ลูกมีความสุขในสิ่งที่ทำ และเกิดประโยชน์กับตัวเองมากที่สุด

1.สอนวิธีการคิดและแก้ปัญหาให้เป็น
การสอนลูกให้รู้จักใช้สติ มีเหตุผลในการคิดวิเคราะห์ แก้ไขปัญหาด้วยเหตุผล รู้จักคิดนอกกรอบ พร้อมเปิดโอกาสให้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง โดยมีพ่อแม่เฝ้าดูและแนะแนวทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้องให้เด็กก็จะได้ฝึกวิธีคิดและได้พัฒนาสมองได้อีกทางหนึ่ง

2. เรียนรู้คู่การเล่น
สื่อดิจิทัลมีข้อดีมากมาย หากเรารู้จักใช้เพื่อเป็นสื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก เช่น
เลี้ยงลูกยุคดิจิทัล ด้วยการพาออกไปเรียนรู้โลกกว้างด้วยกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆพร้อมสอนให้ลูกเรียนรู้ด้วยการเปิดโลกกว้างผ่านอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ และรู้จักใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลที่มีประโยชน์ ภายใต้ความดูแลของพ่อแม่ การเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับเด็ก จะช่วยให้เด็กได้รับความรักและความใกล้ชิด ซึ่งเด็กจะรู้สึกอุ่นใจและมีกำลังใจที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ดี

3. รู้จักหน้าที่และบทบาทของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ
การสอนให้ลูกรู้จักรับผิดชอบหน้าที่ที่เหมาะสมกับช่วงวัยของตัวเอง เช่น รู้จักวางแผนทำการบ้าน ช่วยเหลืองานบ้าน การกวาดบ้าน ถูบ้าน รดน้ำต้นไม้ ปลูกผักสวนครัว เป็นต้น เป็นการฝึกให้เด็กเกิดความขยันหมั่นเพียร มีความอดทน และการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ เด็กจะรู้สึกภูมิใจที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง พ่อแม่ก็ควรให้คำชม และการสอนด้วยวิธีที่ถูกต้อง

4. เด็กแค่ไหนก็มีความคิดสร้างสรรค์ได้
การบ่มเพาะให้เด็กได้เรียนรู้และค้นหาความชอบของตนเอง ผ่านงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ในการพัฒนาสมอง เช่น การวาดรูป ระบายสี งานประดิษฐ์ งานปั้น การต่อเลโก้การต่อจิกซอว์ เป็นต้น จะช่วยให้เด็กได้ใช้สมองและฝึกทักษะไปพร้อมๆ กัน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อให้สามารถคิดบูรณาการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในอนาคตได้

5. ภูมิคุ้มกันต่อสิ่งแวดล้อม
การให้ความรู้และบอกเล่าสถานการณ์จำลอง ชี้แนะแนวทางการเล่นสื่อดิจิทัล พร้อมบอกเล่าถึงภัยอันตรายให้เด็กได้เรียนรู้เป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้เด็กมีทักษะทางสังคมสามารถรับมือและหลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีเหล่านั้นได้

ทุกอย่างในโลกนี้มีสองด้านเสมอ เทคโนโลยีที่พ่อแม่วิตกกังวลกัน ก็มีทั้งประโยชน์และโทษ ขึ้นอยู่ว่าจะใช้อย่างไรให้ได้ประโยชน์ และสร้างสรรค์ และจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดสมดุลกับครอบครัว เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลง ลูกเปลี่ยนไป พ่อแม่ก็ต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ถ้าแต่ละครอบครัวสามารถทำความเข้าใจเรื่องนี้ได้ ครอบครัวของเราก็จะมีความสุข