ร้องกลั้น คือ อาการที่เด็กร้องไห้อย่างหนักแล้วหยุดค้างไป โดยเด็กจะกลั้นลมหายใจเอาไว้ มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับร้องกลั้น บางข่าวว่ามันอันตรายมากเพราะจะทำให้เด็กสลบหรือถึงแก่ชีวิตได้ เรื่องนี้จริงเท็จแค่ไหน และมีอะไรที่คุณแม่ควรรู้เกี่ยวกับร้องกลั้น ไปดูกันเลย
สิ่งที่อาจเกิดกับเด็กเล็กเมื่อร้องกลั้น เด็กอาจกลั้นหายใจขณะร้องไห้เป็นเวลา 10-20 วินาที หรือบางคนอาจนานถึง 1 นาทีเลยก็เป็นได้ การกลั้นหายใจนี้อาจส่งผลให้ ตัวเขียว ปากเขียว เล็บเขียว หรือ สลบ
ลูกร้องกลั้น คุณแม่ทำอย่างไรดี
- จี๋หรือดีดเท้า มีการแนะนำต่อๆ กันมาในหมู่ผู้ประกอบการเนอสเซอรี่เด็กอ่อนบางกลุ่มว่า หากทารกแรกเกิดร้องกลั้น ให้จี๋ฝ่าเท้าให้น้องหายใจ หรือดีดฝ่าเท้าให้น้องเจ็บและร้องไห้ออกมา
- เป่าลมใส่หน้าหรือเช็ดหน้าด้วยน้ำเย็น การเป่าลมใส่หน้าหรือเช็ดหน้าด้วยน้ำเย็น จะช่วยให้เด็กสะดุ้งและกลับมาหายใจเร็วขึ้น เป็นวิธีสากลที่กุมารแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ
- ปล่อยให้ร้องกลั้น วิธีนี้มีนักวิชาการและแพทย์หลายท่านแนะนำ เพราะตามปกติแล้วคนเราไม่สามารถกลั้นหายใจจนตายได้ เพราะเมื่อคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดขึ้นสูง สมองส่วนเมดุลล่าจะสั่งให้ร่างกายหายใจโดยอัตโนมัติ ดังนั้นถึงคุณแม่ไม่ทำอะไร น้องก็จะกลับมาหายใจเองอยู่แล้ว หากน้องสลบให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าก็จะช่วยให้น้องฟื้นเร็วขึ้น การปล่อยไว้เฉยๆ นี้จะใช้ได้กับเด็กที่มีสุขภาพดีเท่านั้น สำหรับเด็กที่เป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคโลหิตจาง และโรคทางสมอง คุณแม่ต้องพาน้องไปพบแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหานี้ค่ะ
- ลองคุยกับน้อง การร้องกลั้นเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นจากสมองส่วนจิตใต้สำนึก น้องจะควบคุมตัวเองไม่ได้ว่าเมื่อไหร่จะร้องกลั้นหรือไม่กลั้น แต่สำหรับเด็กในวัย 2 ขวบเป็นต้นไปจะสามารถเข้าใจคำพูดและสามารถใช้สมองส่วนจิตสำนึกควบคุมการหายใจได้บ้างแล้ว ดังนั้นคุณแม่อาจลองคุยกับน้อง เวลาที่น้องร้องกลั้น ให้บอกน้องว่า “หายใจด้วยนะคะลูก หนูร้องไห้ได้ แต่ต้องหายใจด้วยค่ะ” น้องในวัย 2 ขวบอาจยังใช้สมองส่วนจิตสำนึกไม่คล่อง คุณแม่ต้องหายใจยาวๆ ให้น้องดู แล้วให้น้องทำตามขณะร้องกลั้นค่ะ เวลาที่น้องอารมณ์ดี ให้น้องฝึกหายใจเข้าออกยาวๆ เป็นประจำ น้องจะได้ชินกับการใช้สมองส่วนจิตสำนึกควบคุมการหายใจมากขึ้น เวลาร้องกลั้นและคุณแม่พูดให้สติ น้องก็จะกลับมาหายใจได้เร็วขึ้น
ร้องกลั้นหายขาดได้ไหม
เด็กอาจร้องกลั้นได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่พอน้องอายุ 3 หรือ 4 ปี อาการร้องกลั้นก็จะหายขาดได้เองโดยที่คุณแม่ไม่ต้องทำอะไร ร้องกลั้นมีอันตรายน้อยมากจนถึงกับมีนักพัฒนาการเด็กกล่าวเอาไว้ว่า ‘ร้องกลั้นอันตรายน้อยกว่าตามใจลูก’ ด้วยซ้ำไป
