พัฒนาการของทารกกับการ ตั้งครรภ์ เดือนที่ 4 เริ่มทราบเพศของทารกในครรภ์แล้ว

หน้าแรก/การตั้งครรภ์/พัฒนาการของทารกกับการ ตั้งครรภ์ เดือนที่ 4 เริ่มทราบเพศของทารกในครรภ์แล้ว
พัฒนาการของทารกกับการ ตั้งครรภ์ เดือนที่ 4 เริ่มทราบเพศของทารกในครรภ์แล้ว

ตั้งครรภ์ เดือนที่ 4 เข้าสู่ช่วงไตรมาสที่สองของการตั้งท้อง ทารกจะมีความยาวหัวจรดเท้าประมาณ 16 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 100 กรัม หรือ 1 ขีด หรือมีขนาดประมาณส้มโอ ส่วนใบหน้าของทารกพัฒนาขึ้นใกล้สมบูรณ์แล้ว คิ้วและขนตาเริ่มขึ้น มีนัยน์ตาปรากฏขึ้นในดวงตา และใบหูเริ่มออกไปอยู่ในตำแหน่งด้านข้าง ซ้ายและขวา ระยะนี้ทารกจะเริ่มเตะ และยืดนิ้วมือนิ้วเท้า

ในส่วนของอวัยวะต่างๆ ของทารกเริ่มมีพัฒนาการและมีความสมบูรณ์มากขึ้น โดยตัวทารกจะถูกห่อหุ้มด้วยชั้นไขมันสีขาวที่ช่วยปกป้องผิวของทารกจากน้ำคร่ำ ในช่วงนี้ คุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะมีพลังเต็มที่แข็งแรง และเต็มไปด้วยความสุข อาการแพ้ท้องอาจน้อยกว่าในช่วงแรกๆ ทารกมีชั้นไขมันใต้ผิวหนังห่อหุ้มร่างกายไว้ ผิวจะออกสีชมพู ใสจนเห็นเส้นเลือด ปอดเริ่มมีการพัฒนาขึ้น ทำงานขยับขึ้นลงเหมือนหายใจ แต่ยังไงลูกก็ยังรับออกซิเจนผ่านรกไปจนกว่าจะคลอด

ขณะที่ขนกับผมจะเริ่มงอกทั่วร่างกาย ลิ้นของทารกมีการพัฒนาปุ่มรับรสขึ้นมา สมองของลูกน้อยในครรภ์จะมีเซลล์ประสาทกว่า 100 ล้านเซลล์ ที่คอยทำหน้าที่ควบคุมประสาทการมองเห็น ทารกเริ่มรับรู้แสงได้แล้ว แม้ว่าเปลือกตายังติดกัน แต่สามารถรับรู้ความสว่าง ไวต่อแสงที่ส่องไปถึงได้มากขึ้น นอกจากนี้ รอยแยกบนสมองส่วนนอกก็กำลังเริ่มพัฒนาไปพร้อมๆกัน ซึ่งสมองส่วนนี้จะเติบโตขึ้นเป็นส่วนที่ทำหน้าที่จดจำ ควบคุมทักษะด้านภาษา และการรับรู้

สำหรับการได้ยินเสียงการเต้นของหัวใจคุณแม่ โดยเริ่มที่จะได้ยินเสียงที่อยู่ภายนอก ซึ่งช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุย หรืออ่านหนังสือ ร้องเพลงให้ลูกฟังบ่อย ๆ เพื่อจะได้เป็นการเสริมสร้างกระตุ้นพัฒนาการลูกได้ตั้งแต่ในครรภ์

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของเดือน ทารกจะมีขนาดถึงประมาณ 18 เซนติเมตร และมีน้ำหนักประมาณ 200 กรัม สิ่งสำคัญที่จะเกิดขึ้นในเดือนนี้ก็คือ อวัยวะเพศเริ่มพัฒนาขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ลูกอัณฑะของเด็กผู้ชาย และ ช่องคลอดของเด็กผู้หญิง ครอบครัวไหนอยากรู้เพศของลูก ช่วงเดือนนี้จะเป็นช่วงที่สามารถดูเพศได้ชัดขึ้น เนื่องจากอวัยวะเพศของลูกจะเห็นความแตกต่างชายหญิงชัดเจน โดยขึ้นอยู่กับท่าทางของทารกด้วยว่าจะเปิดเผยให้เห็นจากการอัลตร้าซาวด์ของแพทย์มากน้อยเพียงใด