ตั้งครรภ์ สัปดาห์ที่ 41 ทารกอยูในท่าเอาศีรษะลงแล้ว คุณแม่อาจมีอาการเจ็บท้องคลอดได้ตลอดเวลา เพราะถึงว่ากำลังเลยเดือนที่ 9 ของการตั้งท้อง ขนาดของทารกในครรภ์มีความยาว 52.2 เซนติเมตร เทียบเท่ากับลูกขนุนขนาดกลางๆ และอาจมีนํ้าหนักมากเกิน 3.5 กิโลกรัม หรือเกือบ 4 กิโลกรัม หากคุณแม่ยังไม่คลอดในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ลูกยังดิ้นดีอยู่เมื่อไปฝากครรภ์จนครบ 41 สัปดาห์ และคุณหมอบอกว่าเป็นปกติ ยังคงรอต่อไปได้
ในส่วนของทารก ยังคงมีพัฒนาการต่อเนื่อง ระบบต่อมไร้ท่อที่ผลิตฮอร์โมนสำคัญๆ เตรียมพร้อมให้ทารกน้อยออกมาสู่โลกภายนอก ระหว่างที่ลูกน้อยคลอดออกมา ร่างกายลูกจะผลิตฮอร์โมนตัวหนึ่ง ซึ่งช่วยให้สามารถปรับตัวกับโลกภายนอกได้ ส่วนการดิ้นของทารก สะท้อนว่า ภายในมดลูกนั้นเล็กเกินไปสำหรับขนาดทารก และลูกอยากออกจากครรภ์มาสู่โลกภายนอกเต็มที่แล้ว
สำหรับในช่วงนี้ คุณแม่ต้องตรวจสอบสัญญาณเตือนของร่างกาย หากแม่ท้องคลอดธรรมชาติ อาทิ อาการน้ำเดิน เกิดจากการแตกหรือรั่วของถุงน้ำคร่ำ ทำให้มีน้ำคร่ำไหลออกมา มูกเลือดหลุดผสมออกมา และการเจ็บท้องจริง หรือ การเจ็บท้องหลอก
ถ้าเป็นไปได้ คุณแม่อาจไปนอนรอคลอดที่โรงพยาบาลได้เลย ในกรณีที่คุณหมอมีการนัดวันผ่าคลอด เนื่องจากหากเข้าสู่ช่วงปลายสัปดาห์ 41 แล้วยังไม่คลอด จะเข้าสู่ภาวะตั้งครรภ์เกินกำหนด ซึ่งมีผลข้างเคียง ต่อทั้งตัวคุณแม่คือทารกที่ตัวโตขึ้น ช่องคลอดฉีกขาดมากขึ้นจากขนาดที่ใหญ่ขึ้นของทารกทำให้คลอดยาก
ดังนั้นคุณแม่ยังไม่มีอาการเจ็บครรภ์ ไม่มีการหดรัดตัวของมดลูก ต้องไปพบคุณหมอ เพื่อทำการตรวจภายใน ประเมินสภาพปากมดลูกว่าพร้อมที่จะคลอดหรือยัง ปัจจุบันแพทย์ส่วนใหญ่มักจะทำการเร่งการคลอดลูกหากอายุครรภ์ 41 สัปดาห์แล้ว โดยไม่ได้รอจนถึง 42 สัปดาห์ เนื่องจากมีผลเสียมากกว่าผลดี เสี่ยงที่รกจะฝ่อแล้ว ทารกจะขาดน้ำขาดอาหาร โดยจะมีการใช้ยากระตุ้นให้คลอด หรือถ้าปากมดลูกยังปิดแน่น หากศีรษะเด็กยังไม่เคลื่อนลงต่ำ มีโอกาสสูงที่ต้องตัดสินใจเปลี่ยนวิธีคลอดจากวิธีธรรมชาติ มาเป็นการผ่าคลอด
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้คุณแม่ต้องดูแลภาพจิตใจให้ดี ทำใจให้สบาย อย่าไปเครียดหรือฟุ้งซ่านเรื่องการตั้งครรภ์เกินกำหนด โดยครอบครัวไม่ควรปล่อยให้คุณแม่อยู่คนเดียวในช่วงนี้ ซึ่งคุณแม่บางรายที่ยังสะดวกพักอยู่ที่บ้าน ต้องเตรียมเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินให้พร้อม ในกรณีเจ็บท้องคลอดกะทันหัน และคุณพ่อหรือคนในครอบครัวไม่ได้อยู่ใกล้ตัว
อนึ่ง ทารกแรกคลอดจะยังไม่มีท่อน้ำตา ซึ่งจะเพิ่งมาเริ่มเปิดภายในไม่กี่สัปดาห์หลังคลอดนั่นเอง จึงเป็นเรื่องปกติที่ทารกจะยังไม่ร้องไห้แบบไม่มีน้ำตาในช่วงแรก ซึ่งหลังการคลอดแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ การให้ลูกกินนมแม่ เพราะจะดีทั้งกับตัวลูกและตัวคุณแม่เอง
