สัปดาห์ที่ 16 ในการ ตั้งครรภ์ ทารกจะมีลำตัวยาวเกือบ 5 นิ้ว หรือประมาณผลอะโวคาโด มีน้ำหนักประมาณ 80 กรัม โดยจะมีการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กล้ามเนื้อบริเวณหลังและกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า คิ้วกับขนตางอกยาวสมบูรณ์ และมีขายาวกว่าแขน โครงกระดูกหนาแน่นขึ้นมีแคลเซียมมาเกาะมากขึ้น หัวใจสามารถสูบฉีดโลหิตได้ประมาณ 52 ลิตร ไตเริ่มทำงานได้เหมือนผู้ใหญ่ อวัยวะเพศพัฒนาจนสามารถบอกเพศได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งรังไข่และไข่นับล้านๆ ใบจะเริ่มก่อตัวภายในทารก เพื่อตรียมพร้อมสำหรับการมีลูกในอนาคต
ทั้งนี้ จำนวนของเซลล์ประสาทของทารกจะเพิ่มขึ้นเท่ากับจำนวนเซลล์ประสาทของผู้ใหญ่มีโยงใยประสาทมากขึ้น มีการเชื่อมโยงระหว่างระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำให้ลูกสามารถควบคุมการขยับแขนขาและการเคลื่อนไหวได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะเซลล์ประสาทกว่า 100 ล้านเซลล์ ที่คอยทำหน้าที่ควบคุมประสาทการมองเห็น แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเริ่มต้นแต่จอประสาทตาของเด็กในท้องอาจไวต่อแสงจ้าแล้ว
ช่วงนี้คุณแม่บางคนจะเริ่มสัมผัสได้ว่าลูกดิ้น แต่การเคลื่อนไหวของทารกน้อยนั้นก็เป็นไปอย่างเบาๆ ขณะที่ในส่วนของร่างกาย คุณแม่อาจรู้สึกหายใจเร็วขึ้น ถี่ขึ้นกว่าเดิม ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากร่างกายต้องการระบายปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากลูกส่งผ่านออกมาผ่านทางรก จึงทำให้อัตราการหายใจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ส่วนการขยายตัวของมดลูกไปเบียดปอด ทำให้คนท้องหายใจลำบาก หายใจได้ไม่สุด อึดอัดได้
ที่สำคัญคือ สัปดาห์ที่ 16 เป็นต้นไป นํ้าหนักตัวคุณแม่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประมาณ 3-4 กิโลกรัม โดยคุณแม่ที่มีนํ้าหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ น้ำหนักตลอดการตั้งครรภ์ควรขึ้นไม่เกิน 15 กิโลกรัม ด้านคุณแม่ที่น้ำหนักเกินกว่าปกติ น้ำหนักตลอดการตั้งครรภ์ไม่ควรเพิ่มเกิน 12 กิโลกรัม และคุณแม่ที่มีรูปร่างอ้วน น้ำหนักตลอดการตั้งครรภ์ไม่ควรเพิ่มเกิน 9 กิโลกรัม
เพื่อโภชนาการที่ดีของคุณแม่กับทารก ขอแนะนำให้ทานอาหารเพิ่มจากปกติอีก 300 กิโลแคลอรี่ต่อวัน เพื่อให้ร่างกายมีสารอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของลูก เพียงแต่ต้องควบคุมปริมาณให้เหมาะสม โดยเฉพาะอาหารที่ทำให้นํ้าหนักตัวเพิ่มง่าย ควรเลือกอาหารที่หลากหลาย หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด คือ เค็มจัด หวานจัด แถมเคล็ดลับง่ายๆ อีกนิดคือ หากซื้ออาหารนอกบ้านมากินก็ไม่ควรปรุงเพิ่ม ลดปริมาณซอสหรือน้ำจิ้มลง รวมถึงการซดน้ำแกงให้น้อยลงด้วย แค่นี้ก็ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นแล้ว
อนึ่ง สัปดาห์ที่ 16 ทารกจะสามารถเริ่มได้ยินเสียงแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับลูกบ้างเพื่อให้ลูกคุ้นเคยเสียงพ่อแม่ ส่วนคุณแม่ที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย ให้ดื่มนํ้ามากๆ รับประทานผักกับผลไม้ รวมทั้งอาหารที่ย่อยง่ายๆเยอะขึ้น
