สัปดาห์ที่ 3 ของการ ตั้งครรภ์ ตัวอ่อนที่ปฏิสนธิแล้วนั้น จะมีขนาดเล็กประมาณเท่าหัวเข็มหมุดเท่านั้นเอง หรืออาจจะเล็กกว่านั้นด้วยซ้ำ ในช่วงนี้คุณแม่ทุกคนน่าจะทราบแล้วว่าตัวเองตั้งครรภ์
ทั้งนี้ ประมาณ 7 วันหลังการปฏิสนธิ มอรูลาซึ่งเป็นกลุ่มเซลล์ที่เป็นก้อนกลมตันจะฝังตัวในชั้นบุมดลูกของคุณคุณ เมื่อกลุ่มเซลล์นี้เจริญขึ้นจะกลายเป็นบลาสโทซิสต์ที่หลั่งสารซึ่งกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในร่างกายของคุณมากมาย อาทิ เหนื่อยง่าย จมูกไวกว่าปกติ มีความรู้สึกไวต่อกลิ่นต่างๆ มีอาการเจ็บหน้าอก รู้สึกว่าเต้านมคัด และอาจสังเกตเห็นว่าเต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย รวมถึงระงับรอบประจำเดือนด้วย
สำหรับข้อควรระวัง คุณแม่จะมีอาการเลือดออกมาจากช่องคลอดซึ่งเหมือนประจำเดือนหรือเรียกว่า เลือดล้างหน้าเด็ก ไม่ได้เป็นประจำเดือนแต่อย่างใดและไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เนื่องจากว่าทารกในครรภ์เริ่มมีการฝังตัว จึงก่อให้เกิดเลือดไหลออกมาจากช่องคลอด
ในการ ตั้งครรภ์ สัปดาห์ที่ 3 เป็นอีกช่วงเวลาที่สำคัญมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่ตัวอ่อนปฏิสนธิและช่วงฝังตัว แต่ละวันตัวอ่อนจะมีอัตราการเจริญเติบโตสูงมาก เซลล์เริ่มต้นจะพัฒนาขึ้นเป็นกลุ่มเซลล์ที่ประกอบด้วยเซลล์นับร้อยในเวลา 7 วัน จากนั้นเซลล์บางกลุ่มก็จะพัฒนาเป็นตัวอ่อน บางกลุ่มก็ก่อตัวขึ้นเป็นโครงสร้างสำหรับหล่อเลี้ยงตัวอ่อน ตัวอ่อนซึ่งมีลักษณะกลวงนี้ ยังประกอบไปด้วยกลุ่มเซลล์ที่มีของเหลวหล่อเลี้ยงอยู่ ตัวอ่อนมักจะฝังตัวอยู่บริเวณยอดมดลูก ขั้นตอนเหล่านี้เกิดขึ้นระหว่าง 4-7 วัน เซลล์จากเยื่อหุ้มรอบตัวอ่อนจะสร้างรกฝังในเยื่อบุมดลูก คือทางลำเลียงอาหารและของเสียระหว่างกระแสเลือดและตัวอ่อน เซลล์ของเส้นทางลำเลียงนี้จะพัฒนาขึ้นเป็นรกในเวลาต่อมา โดยทำหน้าที่เป็นทางลำเลียงอาหารให้ทารกและปกป้องทารกตลอดระยะที่อยู่ในครรภ์
การปฏิบัติตัวในช่วง ตั้งครรภ์ สัปดาห์ที่ 3 กับการเริ่มการปฏิสนธิไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะขยายเซลล์ออกไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง คุณแม่ต้องเอาใจใส่กับคุณภาพลูกน้อยในครรภ์อย่างจริงจัง ด้วยการทานอาหารที่มีกรดโฟลิกสูงจะ ช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดแดง และเซลล์ของตัวอ่อนมีความแข็งแรงคุณควรได้รับกรดโฟลิก และวิตามินรวมให้ได้วันละ 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน ตั้งแต่ช่วงก่อนตั้งครรภ์ไปจนปลายสัปดาห์ 12
อนึ่ง ถ้าคุณแม่ที่ยังไม่ได้ไปฝากครรภ์ควรที่จะไปฝากครรภ์ก่อน เพราะว่าคุณหมอจะได้ตรวจสอบหาโรคแทรกซ้อนที่อาจจะตามมาหรือโรคจากแม่ไปสู่ลูกรวมถึงครรภ์เป็นพิษ โดยหากว่ารู้ว่ามีการตั้งครรภ์แล้วควรไปพบแพทย์เพื่อทำการฝากแพทย์จะดีที่สุด
