อาการที่คุณแม่มือใหม่หลายท่านกังวลมากที่สุดในช่วงการตั้งครรภ์ คือ อาการครรภ์เป็นพิษ ซึ่งทางการแพทย์เองก็ไม่สามารถการันตีได้ว่า อาการนี้จะเกิดกับคุณแม่ทุกคน เพราะในคุณแม่บางรายที่มีสุขภาพแข็งแรงก็สามารถเกิดอาการนี้ได้เช่นกัน เพื่อเป็นการป้องกันและสังเกตุตัวเอง เรามาดูว่าอาการของครรภ์เป็นพิษมีลักษณะเป็นอย่างไร และต้องดูแลตัวเองเบื้องต้นอย่างไรบ้าง
อาการครรภ์เป็นพิษโดยทั่วไป
- น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วประมาณ 1-2 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ อันเกิดมาจากอาการบวมน้ำ ซึ่งปกติน้ำหนักคุณแม่ที่ขึ้นในภาวะปกติประมาณ 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์
- อาการบวมเพิ่มมากขึ้น เมื่อกดเข้าไปบริเวณที่บวมเช่น ขา เปลือกตา จะมีรอยบุ๋ม
- ความดันโลหิตสูงขึ้น มีอาการปวดศรีษะร่วมด้วย
- มีอาการตาพร่ามัว เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงจอประสาทน้อยลง จุกแน่นที่ใต้ชายโครงด้านขวาหรือบริเวณลิ้นปี่ หายใจลำบากอันเกิดจากน้ำในปอดเพิ่มมากขึ้น
- ลูกดิ้นน้อยลง ขนาดท้องไม่ค่อยโต เกิดจากเลือดไปเลี้ยงมดลูกน้อยลง บางรายลูกน้อยในครรภ์อาจเสียชีวิตได้
นอกจากความเสี่ยงที่ลูกน้อยในครรภ์จะเสียชีวิตจากอาการครรภ์เป็นพิษแล้ว คุณแม่เองก็มีความเสี่ยงต่อชีวิตเช่นกัน คุณแม่ควรสังเกตุตัวเองเสมอในช่วงอายุครรภ์ที่ผ่านไป โดยเฉพาะการนับอัตราการเต้นของหัวใจของลูกและการดิ้นของลูก จะต้องมีความสม่ำเสมอและเป็นไปตามพัฒนาการในแต่ละช่วงอายุครรภ์
การป้องกันตัวเองจากอาการครรภ์เป็นพิษ
การป้องกันตัวเองจากอาการครรภ์เป็นพิษเบื้องต้นสามารถทำได้คือ ควบคุมอาหารให้เหมาะสม คุณแม่ไม่ควรกินอาหารที่ตามใจปากมากเกินไป ควรเลือกเมนูอาหารที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการของลูกให้มากที่สุด เพราะจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หมั่นพบคุณหมอตามนัดเสมอ เพื่อจะได้อัพเดตพัฒนาการของลูกในท้อง และภาวะเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมรับคำแนะนำจากคุณหมอประจำตัว
ปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลให้เกิดครรภ์เป็นพิษ
- สุภาพสตรีที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปีและอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวที่มากเกินเกณฑ์ปกติ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวมาก่อน เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภูมิแพ้ตัวเอง โรคไต โรคไมเกรน เป็นต้น
- คุณแม่ที่ตั้งครรภ์แฝด
แม้ว่าอาการครรภ์เป็นพิษจะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกเป็นกังวล แต่คุณแม่เองควรดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดี นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด หมั่นสังเกตุตัวเอง ไม่ควรวิตกกังวลมากจนเกินไป ซึ่งหากมีอาการที่น่าสงสัยใกล้เคียงกับอาการข้างต้น สามารถพบคุณหมอทันที เพื่อที่จะดูแล ตรวจเช็คและดูแลให้ทันท่วงที
