มะเร็งปากมดลูก หากพบขณะตั้งครรภ์ ต้องทำอย่างไรต่อ

หน้าแรก/การตั้งครรภ์/มะเร็งปากมดลูก หากพบขณะตั้งครรภ์ ต้องทำอย่างไรต่อ
มะเร็งปากมดลูก หากพบขณะตั้งครรภ์ ต้องทำอย่างไรต่อ

มะเร็งปากมดลูก อาจไม่ใช่สิ่งที่พบบ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ จากสถิติ ผู้หญิงมีครรภ์ 10,000 คน มีผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก 10.6 คน ถึงกระนั้นมะเร็งปากมดลูกก็เป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยเฉลี่ย 7 คนต่อวัน แล้วถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ เกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกขึ้นมา จะทำอย่างไรดี ก่อนที่จะไปพบกับคำตอบ เรามารู้จักปากมดลูกและมะเร็งปากมดลูกกันก่อนดีกว่า

ปากมดลูกคืออะไร

ปากมดลูก คือ ส่วนปลายของมดลูกที่ยื่นเข้ามาในช่องคลอด ด้านหนึ่งเปิดสู่โพรงมดลูก อีกด้านเปิดสู่ช่องคลอด โดยปากมดลูกจะเปิดต่อเมื่อมีเพศสัมพันธ์ คลอดบุตร ไข่ตก หรือมีประจำเดือน หน้าที่สำคัญของปากมดลูก คือ ป้องกันเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่โพรงมดลูก สร้างเมือกปรับความเป็นกรดด่างเพื่อให้อสุจิเข้าไปในโพรงมดลูกได้ และที่สำคัญปากมดลูกยังทำหน้าที่ในการพยุงครรภ์ด้วย

มะเร็งปากมดลูก เกิดจากอะไร

มะเร็งปากมดลูก 70% เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) เชื้อโรคชนิดนี้จะทำให้ปากมดลูกอักเสบเรื้อรังจนกลายเป็นมะเร็งในที่สุด การติดเชื้อ HPV สามารถติดได้ทางเพศสัมพันธ์ สำหรับคุณผู้หญิงที่หลับนอนกับผู้ชายมากกว่า 1 คนหรือหลับนอนกับผู้ชายที่มีคู่นอนมากกว่า 1 คน ย่อมมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งมากกว่า ส่วนสาเหตุอื่นๆ นอกเหนือจากการติดเชื้อไวรัส ได้แก่

1.มีเพศสัมพันธ์อายุน้อย

2.คลอดบุตรเกินกว่า 4 คน

3.กินยาคุมกำเนิดนานเกิน 5 ปี

4.สูบบุหรี่

5.ไม่รับประทานผักและผลไม้ หรือรับประทานผักและผลไม้น้อยเกินไป

6.เคยติดโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน

เป็นมะเร็งปากมดลูกขณะตั้งครรภ์ ทำอย่างไรดี

สิ่งแรกที่คุณแม่ต้องทำคือเข้ารับการตรวจประเมินจากคุณหมอ ในการรักษามะเร็งปากมดลูก ทำได้โดยการฉายแสง เคมีบำบัด หรือผ่าตัดปากมดลูก การฉายแสงและเคมีบำบัดเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ส่วนการผ่าตัดปากมดลูกก็อาจทำให้ปากมดลูกไม่อาจพยุงครรภ์เอาไว้จนครบกำหนดคลอดได้ แพทย์จึงจะต้องพิจารณาว่าจะยุติการตั้งครรภ์หรือทำคลอดก่อนกำหนด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุครรรภ์และความรุนแรงของมะเร็ง

หากเป็นมะเร็งขั้นต้น คุณหมอมักจะไม่ยุติการตั้งครรภ์ แต่จะต้องตรวจมะเร็งอย่างสม่ำเสมอ ในกรณีที่มะเร็งลุกลามแล้ว หากคุณแม่ตั้งครรภ์น้อยกว่า 4 เดือน คุณหมอมักพิจารณาให้ยุติการตั้งครรภ์ แต่ถ้าคุณแม่มีอายุครรภ์พอสมควร แพทย์จะรอให้ปอดของเด็กแข็งแรงมากที่สุด ค่อยผ่าคลอดก่อนกำหนด แต่ไม่ว่าอย่างไร หมอจะไม่รอเกิน 8 สัปดาห์

ดังที่กล่าวไปแล้วว่า 70% ของมะเร็งปากมดลูกเกิดจากไวรัส HPV ทว่าโรคนี้มีวัคซีนป้องกัน คุณผู้หญิงควรเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ทว่าวัคซีนดังกล่าวไม่สามารถฉีดขณะตั้งครรภ์ได้