7 อาการท้องแก่ของคุณแม่ ตั้งครรภ์ ที่ใกล้คลอดเป็นอย่างไร

หน้าแรก/การตั้งครรภ์/7 อาการท้องแก่ของคุณแม่ ตั้งครรภ์ ที่ใกล้คลอดเป็นอย่างไร
7 อาการท้องแก่ของคุณแม่ ตั้งครรภ์ ที่ใกล้คลอดเป็นอย่างไร

เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 38 ขึ้นไป คุณแม่ ตั้งครรภ์ ต่างตื่นเต้นกับลูกน้อยที่จะลืมดาดูโลกในไม่ช้า กำหนดการคลอดลูกจะช่วยให้คุณแม่ต่างต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แต่คุณแม่ทราบหรือไม่ว่า อาการใกล้คลอดแบบไหนที่เป็นสัญญาณเตือนให้ไปโรงพยาบาลทันที คุณแม่อาจต้องลองสังเกตุจากสัญญาณเตือนเหล่านี้

•เจ็บท้องคลอด คุณแม่จะรู้สึกเจ็บ มีอาการตึง ๆ หรือ บีบรัดที่ครรภ์ หรือท้องแข็งมีอาการปวดตื้อ ๆ บริเวณหลังและท้องช่วงล่าง โดยเริ่มปวดไล่มาตั้งแต่มดลูกไปยังก้นอย่างสม่ำเสมอ ปวดเป็นจังหวะ ปวดแบบคาดเดาได้ คือมีอาการปวดทุก ๆ นาที ปวดอยู่นาน 30-70 วินาที ซึ่งอาการปวดจะเริ่มรุนแรงขึ้น ปวดนานและถี่ขึ้นเมื่ออยู่ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนคลอด เนื่องจากมดลูกบีบตัวและหดรัด และมักพบอาการปวดร่วมกับน้ำเดินและมีมูกเลือดออกมาทางช่องคลอด

•มีมูกปนเลือดออกทางช่องคลอด ร่างกายจะมีการสร้างชั้นเมือกหนาปกคลุมบริเวณปากมดลูกในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมในการคลอดจะทำให้เกิดการสลายเมือกเหล่านั้นออกมาทางช่องคลอด ซึ่งมูกที่พบมีอยู่หลายลักษณะ ตั้งแต่ มูกใส สีน้ำตาล สีชมพู หรือแม้แต่สีแดงสดเหมือนเลือด มีความหนืดและข้นคลายตกขาว

•น้ำเดินหรือน้ำคร่ำเดิน เป็นอีกอาการที่ค่อนข้างชัดเจนว่าใกล้คลอดแล้ว โดยคุณแม่จะมีของเหลวเป็นน้ำใสๆ ไหลออกมาจากช่องคลอดเช่นเดียวกับมูกเลือด จะไหลออกมาปริมาณไม่เยอะแล้วหายไป ถ้าคุณแม่มีอาการน้ำเดินไม่ว่าจะเจ็บท้องคลอดหรือไม่ก็ตาม ต้องรีบพบแพทย์ทันที เพราะสายสะดือของทารกในครรภ์อาจถูกกดทับจากภาวะที่น้ำคร่ำน้อยลงหรือเกิดภาวะสายสะดือโผล่ และโดยทั่วไปคุณแม่มักจะคลอดลูกภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังจากมีน้ำเดิน

•ปากมดลูกบางและขยาย ในขณะตั้งครรภ์ปากมดลูกจะมีลักษณะกลมหนาปิดสนิทตลอดเวลา โดยมีความหนาและยาประมาณ 2 เซนติเมตร เมื่อเข้าสู่ระยะใกล้คลอด คุณแม่จะมีฮอร์โมนสูงขึ้น ทำให้ปากมดลูกเริ่มบางตัวและอ่อนนุ่มลง เมื่อปากมดลูกหดรัดตัวจะทำให้ปากมดลูกบางลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งความหนาของปากมดลูกหมดไป ค่อย ๆ เปิดกว้างออกจนถึง 10 เซนติเมตร

หากคุณแม่พบอาการเหล่านี้ในช่วงท้องแก่ใกล้คลอด ให้คุณแม่รีบเตรียมไปโรงพยาบาลโดยด่วน เพราะถ้าเกิดพบความผิดปกติ แพทย์และพยาบาลจะได้ดูแลอย่างทันท่วงที และขอแนะนำว่าไม่ต้องแต่งหน้าทาปากไปสำหรับคุณแม่รักสวยรักงาม เพราะถ้าเกิดความผิดปกติขึ้นระหว่างการคลอด เช่นกรณีที่คุณแม่ขาดออกซิเจน แพทย์จะสังเกตอาการจากสีริมฝีปากคุณแม่ปากเขียวหรือม่วงคล้ำได้ไม่ปนกับสีลิปสติกที่คุณแม่ทาไป เราจึงแนะนำให้ไม่ต้องแต่งหน้าทาปากไปแต่อย่างใดเลย