เตรียมตัว ตั้งครรภ์ ต้องรับวัคซีนอะไรบ้าง

หน้าแรก/การตั้งครรภ์/เตรียมตัว ตั้งครรภ์ ต้องรับวัคซีนอะไรบ้าง
เตรียมตัว ตั้งครรภ์ ต้องรับวัคซีนอะไรบ้าง

คุณผู้หญิง ตั้งครรภ์ ที่เตรียมตัวจะเป็นคุณแม่ ควรไปพบสูตินรีแพทย์ เพราะนอกจากคุณหมอจะตรวจดูโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการตั้งครรภ์และการรับยาโฟเลตเพื่อป้องกันการพิการของเด็กแล้ว คุณแม่ยังขอให้คุณหมอฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ได้อีกด้วย โดยวัคซีนเหล่านี้เป็นวัคซีนที่ต้องฉีดก่อนการตั้งครรภ์เท่านั้น จะฉีดในขณะตั้งครรภ์ไม่ได้

1.หัดเยอรมัน หัด และคางทูม

หากคุณแม่ป่วยเป็นหัดเยอรมันในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ มีโอกาสมากกว่า 50% ที่ทารกจะเป็นต้อกระจก ต้อหิน เกร็ดเลือดต่ำ ตับและม้ามโต หัวใจพิการ ไปจนถึงสมองพิการ แพทย์ส่วนใหญ่จึงมักแนะนำให้คุณแม่ยุติการตั้งครรภ์ สำหรับคุณแม่ที่ป่วยเป็นโรคหัดขณะตั้งครรภ์ จะส่งผลให้แท้ง หรือคลอดก่อนกำหนด แต่ไม่ปรากฎว่าทำให้เด็กพิการ ส่วนคางทูม แม้จะเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยาก เพราะผู้ใหญ่โดยส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว แต่ก็ควรฉีกวัคซีนป้องกันเพราะโรคนี้ส่งผลต่อกล้ามเนื้อมดลูก ทำให้คุณแม่แท้งได้

วัคซีนป้องกันหัด หัดเยอรมัน และคางทูม ทำจากเชื้อโรคจริงๆ ที่อ่อนแรงลง จึงไม่สามารถฉีดให้กับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์แล้วได้ เพราะอาจทำให้ทารกได้รับเชื้อโรคดังกล่าว หลังจากฉีดวัคซีนคุณแม่ต้องคุมกำเนิดอย่างน้อย 3 เดือน

2.อิสุกอิใส

เนื่องจากหญิงมีครรภ์มักมีภูมิคุ้มกันลดลงขณะตั้งครรภ์ ความรุนแรงของโรคอิสุกอิใสในขณะตั้งครรภ์จึงมีมากกว่าปกติ ยิ่งใกล้คลอด ยิ่งเป็นอันตราย เพราะอาจทำให้คุณแม่ปอดอักเสบ ระบบหายใจล้มเหลว ชัก และเสียชีวิตทั้งแม่และทารกในครรภ์

สำหรับคุณผู้หญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ หากเคยเป็นอิสุกอิใสแล้วไม่ต้องฉีดวัคซีนนี้อีก แต่หากไม่เคยเป็นควรจะต้องรับวัคซีน โดยรับยา 2 เข็ม แต่ละเข็มห่างกัน 1 เดือน และหลังจากรับวัคซีนแล้วจะต้องคุมกำเนิดอย่างน้อย 3 เดือน

3.มะเร็งปากมดลูก

หากคุณแแม่ตั้งครรภ์เป็นมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรกจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อเด็กและแพทย์อาจไม่ทำการรักษาจนกว่าทารกจะพร้อมต่อการทำคลอดก่อนกำหนด แต่หากมะเร็งอยู่ในระยะลุกลามแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาในทันที เนื่องจากการรักษาทำได้โดยการฉายรังสี เคมีบำบัด และผ่าตัด ซึ่งอาจต้องตัดมดลูกและรังไข่ออก หากพบการแพร่กระจาย ซึ่งวิธีในการรักษามะเร็งทำให้ต้องสูญเสียตัวอ่อนไปอย่างแน่นอน ยกเว้นแต่อายุครรภ์มากพอ แพทย์จะพิจารณาผ่าคลอดก่อนกำหนดแทน

เนื่องจากมะเร็งปากมดลูกอาจส่งผลให้ทารกคลอดก่อนกำหนด ดังนั้นคุณผู้หญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ควรฉีดวัคซีน วัคซีนชนิดนี้จะช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งจะทำให้ปากมดลูกอักเสบเรื้อรังและกลายเป็นมะเร็งได้ โดยจะต้องฉีดทั้งหมด 3 เข็ม วัคซีนมะเร็งปากมดลูกไม่สามารถฉีดในระหว่างตั้งครรภ์ได้ เพราะยังไม่มีงานวิจัยหรือข้อบ่งชี้แน่ชัดว่าปลอดภัยต่อทารกในครรภ์