ท้องนอกมดลูก โรคที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้

หน้าแรก/การตั้งครรภ์/ท้องนอกมดลูก โรคที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้
ท้องนอกมดลูก โรคที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้

การตั้งครรภ์ โดยปกติแล้ว เมื่อไข่ได้รับการผสมกับอสุจิ ไข่จะเคลื่อนตัวจากท่อนำไข่ลงมาฝังตัวในโพรงมดลูก แต่หากไข่ฝังตัวในบริเวณอื่นที่ไม่ใช่โพรงมดลูก เช่น รังไข่ ท่อนำไข่ หรือแม้แต่ปากมดลูก นั่นคือการท้องนอกมดลูก ในผู้หญิงตั้งครรภ์ ทุกๆ 200 คน จะมี 1 คนที่ท้องนอกมดลูก และหากได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที คุณแม่อาจตกเลือดและช็อกได้ แถมยังส่งผลให้มีบุตรยากด้วย ดังนั้นท้องนอกมดลูกจึงเป็นโรคที่คุณแม่และผู้ที่เตรียมตัวจะเป็นคุณแม่ควรจะต้องรู้จักมันกันสักหน่อย

สาเหตุของการท้องนอกมดลูก

  1. คุณแม่อายุมาก คุณแม่ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไปมีโอกาสท้องนอกมดลูกมากกว่าคุณแม่อายุน้อย
  2. คุณแม่เคยผ่าตัดมดลูก การผ่าตัดต่อหมัน มักก่อให้เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก ส่วนการทำหมัน หากทำหมันแล้วยังตั้งครรภ์ 99% มักเป็นการตั้งครรถภ์นอกมดลูก
  3. การคุมกำเนิดบางชนิด การใช้ยาคุมฉุกเฉินและห่วงอนามัยทำให้คุณแม่มีโอกาสท้องนอกมดลูกสูง
  4. การติดเชื้อบางชนิด การติดเชื้อ Chlamydia trachomatis และ Nesseria gonorrheae ที่อุ้งเชิงกรานทำให้ ผนังท่อนำไข่ไม่สม่ำเสมอ บางช่วงตีบจนไข่ไม่สามารถเคลื่อนออกมายังโพรงมดลูกได้ นอกจากนี้เชื้อดังกล่าวยังทำให้มดลูกและรังไข่ ยังมีพังผืดเกาะจนไข่ไม่มีที่ฝังตัว ต้องตกลงมาฝังบริเวณปากมดลูก
  5. คุณแม่มีประวัติตั้งครรภ์นอกมดลูก คุณแม่ที่เคยตั้งครรภ์นอกมดลูกมาแล้วมีโอกาสเป็นซ้ำได้มากกว่าคนทั่วไป 13 เท่า

อาการของการท้องนอกมดลูก

  1. ตั้งครรภ์ 1-2 เดือนแต่ยังมีเลือดออกกะปริดกะปรอย
  2. ปวดท้องน้อยเรื้อรัง บางครั้งปวดเป็นชั่วโมง บางครั้งปวดมากตั้งแต่ท้องน้อยร้าวไปถึงหลัง
  3. เป็นลม หน้าซีด เหงื่อออกแต่ตัวเย็น
  4. อาจเป็นไข้ร่วมด้วย

หากมีอาการเหล่านี้ คุณแม่ควรพบแพทย์โดยด่วน เพราะการท้องนอกมดลูกมีอันตรายต่อตัวคุณแม่เองเป็นอย่างมาก

การรักษาอาการท้องนอกมดลูก

  1. ใช้ยา เป็นการฉีดยาเมโธเทรกเซท (Methotrexate) เข้ากล้ามเนื้อหรือฉีดเข้าไปที่ตัวอ่อนโดยตรง เพื่อทำให้ตัวอ่อนฝ่อ ข้อดีคือรักษาท่อนำไข่เอาไว้ได้ ข้อเสียคือเฉพาะผู้ป่วยที่ท่อนำไข่ยังไม่แตกเท่านั้นที่ทำได้ และมีโรงพยาบาลเพียงไม่กี่โรงพยาบาลเท่านั้นที่มีความสามารถจะฉีดยาชนิดนี้ เพราะต้องมีเครื่องตรวจฮอร์โมน ß- hCG แถมใช้เวลารักษานาน 7-8 สัปดาห์
  2. ผ่าตัด เป็นการผ่าตัดเอาตัวอ่อนออก โดยแพทย์จะนำท่อนำไข่ออกกรณีเดียว คือ ท่อนำไข่แตกเกินกว่าจะรักษาเอาไว้ได้แล้วเท่านั้น

หากว่าที่คุณแม่ประจำเดือนขาด ใช้ที่ตรวจครรภ์แล้วปรากฏสองขีด ทว่ากลับมีเลือดออกกระปริดกระปรอยและปวดท้องน้อย ว่าที่คุณแม่ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน เพราะการตั้งครรภ์ของคุณอาจเป็นท้องนอกมดลูกก็เป็นได้