เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ มีอะไรบ้าง

หน้าแรก/การตั้งครรภ์/เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ มีอะไรบ้าง
เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ มีอะไรบ้าง

โดยปกติแล้วหากคุณผู้หญิงอยากตั้งครรภ์ ก็อาจเตรียมตัวได้ง่ายๆ โดยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอและงดสารเสพติดทุกชนิด เช่น บุหรี่ ชา กาแฟ ตลอดจนพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจและเตรียมความพร้อมของร่างกาย ตลอดจนนับวันไข่ตกเพื่อผลิตทายาทแบบธรรมชาติ แต่หากทำทั้งหมดนี้เกิน 1 ปีแล้วยังไม่ตั้งครรภ์ นั่นแสดงว่าคุณมีภาวะมีบุตรยาก จำเป็นต้องพึ่งเทคโนโลยี ว่าแต่เทคโนโยลียี่ช่วยให้ตั้งครรภ์มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

เทคโนโลยีที่ช่วยให้ตั้งครรภ์

เนื่องจากเมื่อคุณแม่อายุมากขึ้น คุณภาพของไข่ก็จะแย่ลง ดังนั้นจึงต้องอาศัยเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้น โดยอาจแบ่งออกเป็น 3 แบบใหญ่ๆ คือ

1.IUI (Intrauterine Insemination) เป็นการฉีดอสุจิเข้าไปในโพรงมดลูก โดยคุณหมอจะคัดเอาแต่ตัวที่แข็งแรง วิธีนี้ช่วยให้ตัวอสุจิไม่ต้องว่ายผ่านปากมดลูกจึงมีโอกาสที่จะมีชีวิตรอดไปถึงไข่ได้มากกว่า แต่โอกาสในการตั้งครรภ์สำหรับวิธีนี้มีเพียง 15% เท่านั้น

2.GIFT (Gamete Intrafallopian Tube Transfer) และ IVF (In Vitro Fertilization) เป็นการนำไข่และอสุจิออกมาผสมภายนอก แบ่งออกเป็น 2 แบบ

2.1 GIFT (Gamete Intrafallopian Tube Transfer) เหมาะกับคุณแม่ที่มีท่อน้ำไข่แข็งแรงอย่างน้อย 1 ข้าง และเหมาะกับคุณพ่อที่อสุจิไม่แข็งแรง วิธีการคือหลังจากเก็บไข่ออกมาผสมกับอสุจิแล้ว จะฉีดฮอร์โมน HCG ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งการตั้งครรภ์ให้กับคุณแม่และนำตัวอ่อนกลับเข้าไปในท่อนำไข่ก่อนระยะฝังตัว มีโอกาสสำเร็จ 25-35%

2.2 IVF (In Vitro Fertilization) ในภาษาไทยเรียกว่าการทำเด็กหลอดแก้ว เหมาะกับคุณแม่ที่มีอายุมาก ท่อนำไม่แข็งแรง หรือมีปัญหาในระบบสืบพันธ์อื่นๆ วิธีนี้หลังจากที่ผสมในจานทดลองแล้ว จะเลี้ยงตัวอ่อนเอาไว้จนถึงระยะฝังตัวจึงนำกลับเข้าไปไว้ในโพรงมดลูก ระยะในการเลี้ยงมีแบบ 5 วัน (โอกาสสำเร็จ 25-35%) และ 8 วัน (โอกาสสำเร็จ 50%)

3.การทำ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) การผสมแบบ GIFT และ IVF เป็นการนำไข่ไว้ในหลอดแก้วที่มีน้ำอสุจิ อสุจิไม่ต้องเคลื่อนตัวไกลเพียงแต่ยังต้องเจาะไข่เข้าไปข้างในอยู่ แต่วิธี ICSI คือใช้เข็มที่มีอสุจิอยู่ เจาะเข้าไปในไข่ และฉีดอสุจิเข้าไป ตัวอสุจิไม่ต้องเจาะไข่เอง วิธีนี้เหมาะกับไข่ที่มีเปลือกไข่หนาผิดปกติจนตัวอสุจิไม่สามารถเจาะเข้าไปได้ ข้อดีของวิธีนี้คือมั่นใจได้ว่าไข่จะได้รับการผสม และลดปัญหาไข่หนึ่งใบได้รับการผสมจากอสุจิหลายตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดแฝด หรือเกิดการปฏิสนธิผิดปกติอื่นๆ

รู้จักเทคโนโลยีกันไปแบบคร่าวๆ แล้ว คู่ของคุณควรใช้เทคโนโลยีแบบใด ปรึกษาสูตินรีแพทย์ของศูนย์ผู้มีบุตรยาดในโรงพยาบาลชั้นนำได้ทั่วประเทศเลย