เหตุผลที่คนท้องไม่ควรทำฟันระหว่าง ตั้งครรภ์

หน้าแรก/การตั้งครรภ์/เหตุผลที่คนท้องไม่ควรทำฟันระหว่าง ตั้งครรภ์
เหตุผลที่คนท้องไม่ควรทำฟันระหว่าง ตั้งครรภ์

อย่างที่เราทราบว่าระหว่าง ตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่คุณแม่จะต้องดูแลตัวเองค่อนข้างพิเศษ รวมถึงสุขภาพช่องปากของคุณแม่ซึ่งมีโอกาสเกิดฟันผุได้ง่ายกว่าคนปกติ หากมีปัญหาฟันผุจะต้องรีบจัดการ เพราะถ้าเกิดอาการปวดฟันจะส่งผลให้เกิดภาวะความเครียด นำไปสู่ภาวะการติดเชื้อสู่ทารกในครรภ์ได้

แต่สำหรับคนท้องการทำฟันในบางกรณีสามารถส่งผลทางตรงและทางอ้อมแก่ลูกน้อยในครรภ์ ซึ่งคุณแม่เองจะต้องงดเว้นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เช่น ภาวะแท้ง ระหว่างตั้งครรภ์ควรงดการทำฟันประเภทต่างๆ ดังนี้

1.การรักษารากฟัน

การรักษารากฟันค่อนข้างใช้ระยะเวลานานในการรักษา ความเจ็บปวดระหว่างการรักษามีโอกาสที่จะทำให้คุณแม่เกิดภาวะความเครียดได้ง่าย ซึ่งอาจจะใช้วิธีอื่นเพื่อชะลออาการของรากฟัน เช่น การอุดฟัน เป็นต้น

2.การผ่าฟันคุด

อาการเจ็บปวดของฟันคุดค่อนข้างรุนแรงกว่าฟันซี่อื่น หากพบว่ามีอาการปวดและเจ็บปวดไม่มาก คุณหมอจะแนะนำให้ทำการรักษาหลังคลอด เพื่อละเว้นความรู้สึกเจ็บปวดที่จะนำไปสู่สภาวะความเครียดที่ส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ได้

3.การดัดฟันแฟชั่น

การดัดฟันแฟชั่นเป็นสิ่งที่คุณหมอห้ามและเคร่งครัด เพราะนอกจากจะประสบปัญหาสุขภาพฟันที่แย่ลง เช่น ฟันล้ม ฟันผุได้ง่ายเนื่องจากเป็นการจัดฟันที่ไม่ใช่การรักษาจากทันตแพทย์เฉพาะทาง นอกจากนี้ลวดที่ติดมากับเครื่องมือจะเป็นสื่อนำไฟฟ้านำไปไปสู่การไหม้ที่ช่องปากได้นั่นเอง

4.การจัดฟันปกติ

กรณีที่คุณแม่อยู่ระหว่างการจัดฟันในช่วงที่เริ่มตั้งครรภ์ ในช่วงการดึงฟันค่อนข้างได้รับความเจ็บปวด รวมถึงลวดที่ติดมากับเครื่องมือ จริงๆ แล้วกรณีจัดฟันปกติคุณหมอไม่ได้ห้ามให้คุณแม่หยุดทำการจัดฟัน แต่ควรงดเว้นการเปลี่ยนลวดไปก่อน ค่อยทำการจัดฟันต่อหรือเริ่มเปลี่ยนลวดหลังคลอดเสร็จเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตามการดูแลสุขอนามัยของช่องปากในระหว่างการตั้งครรภ์ก็มีความสำคัญเช่นกัน การแปรงฟันให้สะอาด ใช้ไหมขัดฟัน จะช่วยลดโอกาสการเกิดฟันฟุและทำให้ฟันมีสุขภาพดีมีอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น เพราะทุกครั้งที่คุณแม่เกิดความรู้สึกทางร่างกายแล้วนำไปสู่อารมณ์ต่างๆ ล้วนส่งผลกระทบต่อลูกน้อย เพื่อให้การเจริญเติบโตตลอดช่วงอายุครรภ์ที่สมบูรณ์ หากหลีกเลี่ยงตามที่คุณหมอแนะนำได้คุณแม่ควรทำตามทุกครั้งเพื่อผลที่ดีต่อครรภ์