อาการปวดเมื่อยย่อมเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ ตั้งครรภ์ เสมอ สาเหตุจากสรีระและร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป อวัยวะภายใน มดลูกใหญ่ขึ้นก็ทำให้กระดูกสันหลังช่วงเอวแอ่นมาข้างหน้ามากกว่าปกติ หรือ จากการใช้พลังงานในการทำงาน ภารกิจประจำวัน หักโหมจนเกินไป ไม่มีเวลาพักผ่อน หรือเดินมาก นั่งหลังค่อมต่าง ๆ เป็นเวลานาน จากการใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม มีอาชีพที่ต้องยืนนาน ๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้ตลอดเวลา จึงมักจะมีคำถามว่าจะทำอย่างไรหากคุณแม่ตั้งครรภ์ปวดเมื่อยตามร่างกายแต่ไม่อยากกินยาแก้ปวด ซึ่งนั่นก็คือ การนวดผ่อนคลาย แต่หากสำหรับคนปกติก็สามารถไปร้านนวดแก้อาการได้เลย แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์หละ จะนวดผ่อนคลายตามร่างกายได้หรือไม่ อันตรายมากน้อยแค่ไหน วันนี้เรามาไขกุญแจดอกนี้กัน
กับคำถามยอดฮิตที่ว่า คุณแม่ตั้งครรภ์นวดได้หรือไม่ คำตอบคือ คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถนวดได้ที่บริเวณแขน ขา เท่านั้น โดยขอเน้นย้ำว่า จะต้องนวดไม่รุนแรงเกินไป และห้ามนวดบริเวณท้องเด็ดขาด เพราะมีความเสี่ยงต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ หากนวดผิดวิธีหรือนวดตรงบริเวณที่ห้ามแล้วหรือนวดแรงเกินไป จะทำให้ลิ่มเลือดอุดกั้นในหลอดเลือดปอดอย่างเฉียบพลันได้ เช่นหากบีบนวดที่ขาจึงทำให้ลิ่มเลือกนี่ไหลกลับเข้าหลอดเลือดดำใหญ่ในช่องท้อง แล้วไหลไปที่หัวใจห้องขวาปั๊มไปที่ปอด ทำให้มีอาการหายใจลำบากแน่นหน้าอก หมดสติ ความดันต่ำรุนแรงจนเสียชีวิตได้
วิธีอื่นที่จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ คือ การเล่นโยคะ คุณแม่ท้องสามารถหันมาเล่นโยคะได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกเลย แต่ควรทำท่าโยคะเบา ๆ ง่าย ๆ ก่อนนะ เช่นท่านั่ง พอไตรมาสที่ 2 ก็ให้หลีกเหลี่ยงท่านอนคว่ำ เพราะท้องเริ่มใหญ่มากขึ้นแล้ว ไตรมาสสุดท้าย ควรทำท่าที่แยกเข่าขาอย่างช้าและเบา เพื่อรองรับน้ำหนัก หากมีการนอนหงายให้หาหมอนสัก 2-3 ใบมาพยุงตอนลุกขึ้นด้วย
อีกวิธีหนึ่งคือการแช่น้ำอุ่น ช่วยให้คุณแม่สบายตัวและผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ โดยผสมน้ำอุ่นและใส่เกลือหยาบลงไป ให้คุณแม่นั่งแช่ในน้ำอุ่นให้ได้ประมาณ 30 นาที
แต่วิธีที่ทำง่ายที่สุดคือ การพักผ่อนอย่างเพียงพอ อย่าหักโหมกับงานบ้าน หลีกเหลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ปวดเมื่อย เช่น การยกของในท่าที่ผิดวิธี การยกของหนัก หรือ การออกกำลังหักโหม หรือนานเกินไป การเดินทางนั่งรถเป็นเวลานาน เหล่านี้ก็จะไม่ทำให้คุณแม่รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายอีกต่อไป
