คุณแม่ ตั้งครรภ์ จะมีความสุขมาก หากลูกน้อยในครรภ์แข็งแรง มีพัฒนาการต่าง ๆ และ การเจริญเติบโตที่สมวัย คุณแม่เองก็ต้องดูแลตนเองด้วยในทุกๆเรื่อง การกินอาหาร พักผ่อนเพียงพอ รวมถึงหาวิตามินทานตั้งแต่ก่อนและระหว่างตั้งครรภ์จะดีต่อคุณแม่และลูกน้อยมาก แล้ววิตามินที่จำเป็นนั้นมีอะไรบ้าง
1.กรดโฟลิก เน้นย้ำเลยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ว่า กรดโฟลิก สำคัญมาก ๆ ซึ่งคุณแม่ที่เตรียมแผนที่จะมีลูกน้อยขอให้ทานกรดโฟลิกล่วงหน้าสัก 1-3 เดือนไว้เลย เพราะกรดโฟลิกช่วยลดความพิการตั้งแต่แรกเกิดของทารก ลดการเกิดปากแหว่ง ช่วยพัฒนาการของทารกให้สมบูรณ์ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ พัฒนาการโครงสร้างระบบประสาท คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับกรดโฟลิกวันละ 400 ไมโครกรัม กรดโฟลิกมีอยู่ในรูปแบบยา และอาหารเช่น ผักใบเขียว ผักโขม ถั่วลันเตา ปวยเล้ง กะหล่ำปลี เป็นต้น
2.ธาตุเหล็ก จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง นำพาออกซิเจนไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายคุณแม่และลูกน้อย ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะขาดาตุเหล็ก ซึ่งนำไปสู่การคลอดก่อนกำหนด หรือ น้ำหนักแรกเกิดน้อยไป แหล่งอาหารสำคัญที่มีธาตุเหล็ก คือ เนื้อสัตว์ ไข่แดง ผักใบเขียว ธัญพืชต่าง ๆ เต้าหู้ เมล็ดฟักทอง ขนมปังโฮลเกรน จมูกข้าวสาลี
3.กรดไขมันจำเป็นต่าง ๆ กรดไขมันที่สำคัญเช่น โอเมก้า 3 โอเมก้า 6 ช่วยควบคุมระดับฮอร์ดมนของคุณแม่ตั้งครรภ์ทำให้มดลูกแข็งแรง เรื่องการไหลเวียนโลหิต ลดภาวะคลอดก่อนกำหนด และพัฒนาโครงสร้างสมองของทารก ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างกรดไขมันเหล่านี้ได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหารการกิน สำหรับแหล่งอาหารที่อุดมด้วยกรดไขมันจำเป็นนี้ เช่น กุ้ง ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลากะพง น้ำมันถั่วเหลือง ไข่ เนย ไขมันจากสัตว์
4.วิตามินซี เป็นวิตามินที่สำคัญช่วยในเรื่องของ ป้องกันการแท้งบุตร ในปริมาณการทานที่เหมาะสม
5.แคลเซียมและวิตามินดี แคลเซียมจำเป็นต่อการสร้าง และการดูแลโครงสร้างของร่างกายให้แข็งแรง มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อและการทำงานของหัวใจ คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ และได้รับควบคู่กับวิตามินดี เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมจากอาหารได้ดี การเดินเล่นช่วงแสงแดดอ่อนๆช่วยรับวิตามินดีจากแสงแดดได้ สำหรับปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับวันละ 1,000 มิลลิกรัม แหล่งอาหารที่ดีนั้น เช่นนมถั่วเหลือง โยเกิร์ต ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน ซีเรียล ไข่
6.สังกะสี วิตามินที่ช่วยเรื่องระบบสืบพันธุ์ให้ทำงานได้ดี และการแบ่งตัวของเซลล์ทำงานได้อย่างเต็มพลัง แหล่งอาหารได้แก่ โยเกิร์ต หอยนางรม เนื้อไก่ กุ้ง เมล็ดฟักทอง
7.ไพรโบโอติกส์ โดยปริมาณมากกว่า 80% ของเซลล์สร้างภูมิคุ้มกันของคนเราจะอยู่ในระบบทางเดินอาหาร การได้รับจุลินทรีย์สุขภาพในอาหารเป็นประจำช่วยให้ระบบทางเดินอาหารมีจุลินทรีย์สุขภาพในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยให้ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ดีขึ้น เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
