ฝุ่นควันพิษ PM 2.5 ที่คุณแม่ ตั้งครรภ์ ต้องระวัง

หน้าแรก/การตั้งครรภ์/ฝุ่นควันพิษ PM 2.5 ที่คุณแม่ ตั้งครรภ์ ต้องระวัง
ฝุ่นควันพิษ PM 2.5 ที่คุณแม่ ตั้งครรภ์ ต้องระวัง

คุณแม่ ตั้งครรภ์ เป็นที่ทราบกันดีว่า มลภาวะเป็นพิษที่น่ากลัวมากที่สุดในขณะนี้คือ ฝุ่นควันพิษ PM2.5 ที่ส่งผลต่อ ร่างกายให้เกิดโรคต่างๆตามมา เช่นโรคระบบทางเดินหายใจ โรคปอด โรคภูมิแพ้ทางอากาศ โรคหลอดลมอักเสบ โรคหอบหืด รวมถึงโรคมะเร็ง หากใครก็ตามที่สูดดมฝุ่นควันพิษเข้าไปโดยตรงโดยมีได้ใส่หน้ากากอนามัย แม้แต่คนร่างกายปกติก็ยังเจ็บป่วยได้ แล้วถ้าสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ยิ่งต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ เพราะเสี่ยงต่อลูกน้อยในครรภ์ อาจพิการหรือคลอดก่อนกำหนดได้

เนื่องจากฝุ่นควัน PM 2.5 มีสาร P-A-Hs สารปรอท สารหนู และสารแคดเมี่ยม ที่เกิดจากการเผาไหม้ โรงงานอุตสาหกรรม การเผาในที่โล่งแจ้ง ควันดำจากท่อไอเสีย ควันบุหรี่ การเผาไหม้ของน้ำมันและถ่านหิน เหล่านี้เป็นสารพิษที่อันตรายมาก ๆ ต่อคุณแม่ตั้งครรภ์เพราะส่งผลโดยตรงต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ หากคุณแม่มีการสูดดมฝุ่นควันพิษนี้ที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน จะเข้าไปสู่ปอดและกระแสเลือดได้อย่างง่ายดาย ทำให้สารพิษส่งต่อจากเลือดผ่านสายสะดือสู่ลูกน้อย ทำให้ร่างกายนำออกซิเจนไปเลี้ยงลูกน้อยในครรภ์ได้ไม่เพียงพอ หากคุณแม่อ่อนแอด้วยแล้วก็อาจทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาในระหว่างตั้งครรภ์ได้ แล้วเมื่อคุณแม่ป่วยเป็นโรคก็ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อลูกน้อยในครรภ์ได้เช่นกัน

สำหรับผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์จากฝุ่นควันพิษนี้ ทำให้ลูกในครรภ์มีการเจริญเติบโตที่ช้ากว่า
เด็กปกติ น้ำหนักตัวน้อย เพราะสารตะกั่วที่ทำลายระบบประสาทและระบบสมองของทารก รวมถึงอวัยวะต่าง ๆ เช่น หัวใจ ปอด ระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ส่งผลให้ทารกพิการตั้งแต่ในครรภ์ได้ เช่น ตาบอด หูหนวก คลอดก่อนกำหนด หรือถึงขั้นเลวร้ายคือหยุดขบวนการเจริญเติบโตทั้งหมด จนถึงขั้นแท้งได้ในที่สุด

การป้องกัน คือสิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องดูแลตนเองเป็นพิเศษเพื่อความปลอดภัยของตนเองและลูก
น้อยในครรภ์

1.คุณแม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 ที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ ในเวลาที่คุณแม่ต้องออกจากบ้านทุกครั้ง

2.ทำความสะอาดภายในบ้านไม่ให้มีฝุ่นละออง ไรฝุ่น ขนน้องแมว ขนน้องหมา แมลงสาป

3.หลีกเหลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือ แดดจัด หากคุณแม่ต้องการเดินเล่นนอกบ้าน ขอให้เลือกเดินบริเวณสวนหย่อมมีต้นไม้ล้อมรอบและควรเป็นเวลายามเช้าแสงแดดอ่อน ๆ

4.ไม่ไปสถานที่ ๆ บริเวณที่มีการเผาขยะที่เป็นสารพิษ พลาสติก ยางรถยนต์

5.หลีกเหลี่ยงบริเวณการจราจรติดขัด เพราะจะมีกลุ่มควันรถที่มีสารตะกั่วผ่านจากท่อไอเสีย

หากคุณแม่ดูแลตนเองเป็นอย่างดี ปฏิบัติตามข้อแนะนำดังกล่าว คุณแม่ก็จะปลอดภัยคุณลูกก็แข็งแรงด้วยเช่นกัน