
ชาและชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่คุณแม่หลายคนชื่นชอบ ยิ่งในปัจจุบันนี้กระแสโซเชียลออกมาระบุว่าคุณแม่ ตั้งครรภ์ ดื่มชาเขียวได้วันละ 1-2 แก้วอย่างปลอดภัย เพราะชาเขียวมีคาเฟอีนเพียง 21-51 มิลลิกรัมต่อ 250 มล. และมีแทนนินเพียง 0.18 กรัม ในขณะที่ชามีคาเฟอีน 25-65 มิลลิกรัมต่อ 250 มล. และแทนนิน 0.48-8.50 กรัม ขึ้นกับชนิดของชา แต่ก็มีคุณหมอออกมาโต้ว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มชาเขียวไม่ได้ เรามาดูกันดีกว่าว่าชาและชาเขียวมีสารอะไรที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์บ้าง
1.ฟลูออไรด์ คุณแม่ไตวาย ลูกกระดูกคด
ชาโดยเฉพาะชาเขียวมีฟลูออไรด์อย่างน้อย 0.153+0.004 ฟลูออไรด์นี้อาจส่งผลให้คุณแม่อาจไตวายได้ เพราะเป็นสารที่จะต้องขับออกทางไต เมื่อทารกได้รับฟลูออไรด์จากเลือดของแม่ ทารกจะขับออกทางสายสะดือสู่กระแสเลือดของแม่ ไตของคุณแม่นอกจากจะต้องรับภาระขับฟลูออไรด์จากเลือดของแม่แล้วยังต้องรับภาระขับของเสียออกจากตัวลูกด้วย เรียกว่าทำงานหนัก 2-3 เท่าเลยทีเดียว
นอกจากนี้การที่ทารกได้รับฟลูออไรด์ในปริมาณมากและไม่สามารถขับออกได้ทัน เพราะร่างกายของทารกยังพัฒนาไม่เต็มที่ อาจส่งผลให้ลูกน้อยของคุณเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง กระดูกคอคดงอ อีกทั้งยังทำให้ส่วนปลายของกระดูกหนาและหยาบ มีแคลเซียมและเอ็นมาเกาะที่ข้อต่อกระดูก ทำให้ปวดข้อ เคลื่อนไหวลำบาก และอาจเกิดการพิการติดตัวได้
2.แทนนินสูง ทารกเสี่ยงโลหิตจาง ระบบประสาทเสียหาย
แทนนินเป็นสารฝาดที่จะเข้าไปบล็อกการดูดซึมสารอาหารโดยเฉพาะธาตุเหล็กและโฟลิค การที่คุณแม่ตั้งครรภ์ขาดธาตุเหล็ก จะทำให้ทารกเป็นโรคโลหิตจาง ในบางรายอาจส่งผลให้ม้ามโต เมื่อคลอดออกมาแล้ว จะมีพัฒนาการช้ากว่าเด็กที่มีสุขภาพปกติ
โฟลิคเป็นวิตามินที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อทารก เพราะจะช่วยลดการพิการของทารกในครรภ์ลง หากขาดโฟลิค ทารกอาจเป็นโรคปลายประสาทเปิด ตลอดจนสมองและไขสันหลังพิการอีกด้วย
3.คาเฟอีน อาจทำให้แท้งได้
ชาชงมีคาเฟอีนสูงกว่า 100 มิลลิกรัมต่อหนึ่งถ้วย ชาเขียวมัจฉะมีคาเฟอีน 160 มิลลิกรัมต่อถ้วย ซึ่งนั่นเป็นปริมาณที่มากพอจะทำให้หัวใจของทารกเต้นแรง กระสับกระส่าย หากดื่มมากๆ อาจทำให้หัวใจของทารกหยุดเต้นและแท้งได้ นอกจากนี้คาเฟอีนยังทำให้เลือดไปเลี้ยงมดลูกน้อยลง 5-10% หากคุณแม่ที่ตั้งท้อง 1-3 เดือนดื่มกาแฟในระยะนี้อาจเกิดอาการแท้งคุกคามได้
ชาและชาเขียวมีทั้งฟลูออไรด์ แทนนิน และคาเฟอีน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการต่างๆ ดังที่กล่าวไปแล้ว สำหรับคำถามที่ว่า ‘คุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มชาและชาเขียวได้หรือไม่’ ถามใจคุณดูเถอะค่ะ ว่าพร้อมจะทำให้ตัวเองและลูกน้อยตกอยู่ในความเสี่ยงเหล่านี้หรือเปล่า