
ในยุคเทคโนโลยีที่การแพทย์ทันสมัยและการ ผ่าคลอด ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก คุณแม่หลายคนอาจเลือกผ่าคลอด เพราะแม้แผลจะหายช้ากว่าการคลอดเอง แต่ก็สามารถเลือกฤกษ์เกิดได้ และปลอดภัยกว่าถ้าคุณแม่มีปัญหาสุขภาพ หรือไม่สามารถคลอดด้วยวิธีปกติได้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่วางแผนจะผ่าคลอดแล้วละก็ นี่คือเรื่องที่คุณแม่ผ่าคลอดควรรู้
1.ผ่าคลอดเจ็บนานไหม
ผ่าคลอดโดยปกติแล้วจะเจ็บมากๆ ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะเจ็บน้อยลง ส่วนแผลนั้นประมาณ 2-4 สัปดาห์จะสามารถตัดไหมได้ แต่แผลภายในมดลูกยังคงมีอยู่ต่อไปอีกประมาณ 3 เดือนจึงจะหาย ในระยะเวลา 3 เดือนนี้คุณแม่อาจมีเลือดออกได้เสมอ
2.การขยับตัวและการลุกจากเตียง
หลังจากผ่าตัดด้วยการบล็อกหลังเสร็จ คุณแม่ควรนอนราบเป็นเวลา 24 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ควรนอนเฉยๆ เพราะจะทำให้เกิดพังผืดยึดแผลจนท่อนำไข่อุดตันได้ คุณแม่ควรพลิกนอนตะแคงและขยับขาบ้าง แม้แผลจะยังเจ็บอยู่มากก็ต้องอดทนเพื่อสุขภาพในอนาคต
หลังจาก 24 ชั่วโมงแล้ว คุณแม่จะต้องลุกขึ้นนั่ง โดยไม่เกร็งหน้าท้องเพราะจะทำให้เจ็บแผลมาก ในทางตรงกันข้าม คุณแม่ควรนอนตะแคง ใช้มือยันเตียงพยุงตัวขึ้นนั่ง การนั่งครั้งแรกหลังผ่าตัด คุณแม่จะรู้สึกว่ามดลูกบีบตัวอย่างแรงจนเจ็บปวดเอามากๆ พอผ่านด่านนี้ไปแล้ว ไม่มีอะไรยากสำหรับคุณแม่แล้วค่ะ
พอนั่งได้แล้วทีนี้ก็ลุกเดินได้เลย การลุกจากเก้าอี้ คุณแม่ควรใช้มือวางเท้ากับที่นั่งแล้วดันตัวขึ้น จากนั้นเกร็งหน้าขายกตัวขึ้นยืน วิธีนี้จะช่วยให้แผลไม่กระทบกระเทือน จำไว้ว่าต้องไม่เกร็งหน้าท้องเป็นอันขาด
3.การดูแลตัวเองหลังผ่าคลอด วิธีการดูแลตัวเองหลังผ่าคลอดมีดังนี้
- หลังผ่าคลอดแล้วคุณแม่ควรขอผ้ารัดหน้าท้อง เพราะจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลงได้
- คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการเกร็งหน้าท้องและการทำสิ่งต่างๆ ที่ส่งเสริมให้มีการเกร็งหน้าท้อง เช่น การขับรถ การเดินขึ้นบันได และการยกของหนัก โดยคุณแม่จะต้องดทำสิ่งเหล่านี้ตลอดเวลา 3 เดือน เพราะอาจทำให้แผลภายในไม่ติด อาจต้องผ่าซ่อม ซึ่งจะเจ็บกว่าเดิมหลายเท่า
- คุณแม่จะต้องรับประทานยาแก้ปวดและยาฆ่าเชื้อให้ครบตามแพทย์สั่ง สำหรับยาแก้ปวดมีความสำคัญมาก เพราะหากคุณแม่เจ็บแผลที่ท้องมากๆ อาจทำให้หายใจไม่เต็มปอด และนำไปสู่โรคทางเดินหายใจได้ ส่วนยาฆ่าเชื้อ คุณแม่ต้องรับประทานติดต่อกันจนหมด เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัด