
เด็กแต่ละคนเกิดมาพร้อมความสามารถในการปรับตัวและรับมือกับโลกรอบตัวต่างกัน เพราะมีพื้นอารมณ์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด (Temperament) ไม่เหมือนกัน การเข้าใจอารมณ์พื้นฐานของเด็ก ควบคู่ไปกับมีความรู้เรื่องพัฒนาการเด็กในแต่ละช่วงวัย จะช่วยให้พ่อแม่ตอบสนองและให้การเลี้ยงดูที่เหมาะสม
ลักษณะพื้นฐานอารมณ์ของเด็ก มี 4 รูปแบบดังนี้
- 1. เด็กเลี้ยงง่าย (Easy Child) พบได้ราว 40% คือเด็กที่มีอารมณ์และการตอบรับต่อสิ่งรอบตัวค่อนข้างดี ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ได้ง่าย มักจะมีอารมณ์ดี ไม่ค่อยงอแง กิน นอนง่าย ขับถ่ายเป็นเวลา
- 2. เด็กเลี้ยงยาก (Difficult Child) พบได้ราว 10% คือเด็กที่ปรับตัวยากมากเป็นพิเศษและมักจะตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวในเชิงลบ เช่น เจ้าอารมณ์ ขี้โวยวาย มักจะกิน นอน ขับถ่ายไม่เป็นเวลา คาดเดายาก
- 3. เด็กปรับตัวช้า (Slow To Warm Up) พบได้ราว 15% คือเด็กที่ตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวได้ช้า ต้องใช้เวลาในการปรับตัว แต่ไม่เป็นไปในเชิงลบ ส่วนใหญ่จะกิน นอน ขับถ่ายเป็นเวลา อารมณ์ดี แต่มีอารมณ์อ่อนไหว ชอบทำอะไรแบบค่อยเป็นค่อยไป
- 4. เด็กที่มีลักษณะผสม (Mixed Type) พบได้ราว 35% คือเด็กที่มีหลายๆ ลักษณะตามที่กล่าวข้างต้น
นอกจากนี้ การเรียนรู้ของเด็กในแต่ละคนก็แตกต่างกันด้วย โดยเด็กแต่ละคนจะมีวิธีการเรียนรู้โลกในแบบของตัวเอง ดังนี้
- เด็กที่เรียนรู้จากการฟัง จะหูดี ไวต่อเสียง สามารถเก็บรายละเอียดจากการฟังได้ดี จดจำเนื้อเพลงที่ได้ยินไม่กี่ครั้ง หรือจำชื่อคนได้แม่นยำ ชอบพูดกับตัวเองระหว่างทบทวนสิ่งต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้น
- เด็กที่เรียนรู้จากการมอง จะเชื่อมโยงการรับรู้ผ่านการมองเห็นทุกรูปแบบ สามารถเรียนรู้ได้ดีผ่านการจดจำลักษณะ รูปภาพ สีสัน มักจะจำหน้าคนได้เก่ง
- เด็กที่เรียนรู้จากการปฏิบัติ จะเรียนรู้ได้ดีถ้าลงมือทำ ชอบกิจกรรมที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น ขีด เขียน หยิบ จับ สัมผัส ทำท่าทาง มีความกระตือรือร้นและตื่นตัวตลอด
– ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก : Sook Magazine ฉบับที่ 55 เดือนมิถุนายน 2560 โดย สสส. –