พัฒนาการของทารกกับการ ตั้งครรภ์ เดือนที่ 1 ช่วงเวลาแห่งการปฏิสนธิ

หน้าแรก/การตั้งครรภ์/พัฒนาการของทารกกับการ ตั้งครรภ์ เดือนที่ 1 ช่วงเวลาแห่งการปฏิสนธิ
พัฒนาการของทารกกับการ ตั้งครรภ์ เดือนที่ 1 ช่วงเวลาแห่งการปฏิสนธิ

ตั้งครรภ์ เดือนที่ 1 ทารกยังคงมีลักษณะเหมือนวุ้นไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิแล้ว 5-7 วัน หรือสัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์จะฝังตัวที่ผนังมดลูก ไข่จะเจริญอย่างรวดเร็วเรียก ตัวอ่อน โดยจะมีการสร้าง รก และสายสะดือ เพื่อเป็นทางนำอาหารจากแม่สู่ลูกและขับของเสียจากลูกสู่แม่

ในช่วงแรกสุดของชีวิต คุณแม่หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตั้งครรภ์แล้ว โดยพัฒนาการของทารกในครรภ์เดือนแรกนี้ คือการที่ไข่ผสมกับสเปิร์ม สร้างเป็นตัวอ่อน ซึ่งไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว จะค่อยๆ เคลื่อนไปตามท่อนำไข่ และฝังตัวที่มดลูก ขณะที่ไข่เคลื่อนตัวมานั้น เซลล์จะเริ่มแบ่งตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้น หลังจากหนึ่งสัปดาห์ ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะฝังตัวที่ผนังมดลูก ซึ่งถือว่ากระบวนการปฏิสนธิสมบูรณ์แล้ว ทารกจะอยู่ในถุงน้ำเรียก amniotic sac ซึ่งป้องกันแรงเด็กจากการกระแทก เปรียบเสมือนบ้านและห้องนอนของทารกในครรภ์

ทั้งนี้ หลังจากการปฏิสนธิทารกในครรภ์จะเป็นเพียงเซลล์เล็กๆ ที่ค่อยๆ แบ่งตัวออกเป็น 2 ส่วน คือ เริ่มพัฒนาไปเป็นรกและถุงน้ำคร่ำ มีหน้าที่ปกป้องทารก และเป็นเส้นทางลำเลียงอาหารและของเสียของลูกในระหว่างที่อยู่ในครรภ์ รวมทั้งสร้างฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์ และ มีการพัฒนาไปเป็นตัวอ่อนหรือทารก โดยเซลล์นี้จะแบ่งออกไปเรื่อยๆ จนพัฒนาไปเป็นอวัยวะต่างๆ อาทิ ตับ ปอด ต่อมไทรอยด์ ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ บางส่วนพัฒนาไปเป็นโครงกระดูก กล้ามเนื้อทั่วไป กล้ามเนื้อหัวใจ อัณฑะ รังไข่ หลอดเลือด ฯ จนครบเป็นอวัยวะที่สมบูรณ์

ด้านพัฒนาการของทารกจะเริ่มเห็นตำแหน่งที่จะพัฒนาไปเป็นไขสันหลัง ส่วนหลังของตัวอ่อน ในสัปดาห์ที่สองของการ ตั้งครรภ์ ก่อนที่อวัยวะสำคัญเริ่มเจริญเติบโตขึ้น ช่วงสัปดาห์นี้หัวใจของลูกเริ่มเต้นแล้ว โดยตัวอ่อนจะมีลักษณะคล้ายกุ้งเอวคอดตรงกลาง ส่วนหัว ส่วนข้าง และส่วนล่างเหมือนหางโค้งงอ

อนึ่ง การปฏิสนธิมักเกิดขึ้นในช่วงกลางของรอบประจำเดือนของคุณแม่ แต่อย่าลืมว่า แพทย์จะคำนวณวันกำหนดคลอด ซึ่งนับจากวันเริ่มต้นของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายไปอีก 40 สัปดาห์ จากวันแรกหลังการปฏิสนธิ ตัวอ่อนที่เกิดจากการรวมกันของสเปิร์มและไข่จะแบ่งตัวและเพิ่มจำนวนเซลล์อย่างรวดเร็ว เคลื่อนตัวไปตามท่อนำไข่ และกลายเป็นตัวอ่อนเอมบริโอฝังตัวอยู่ในมดลูก

ขณะเดียวกัน คุณแม่ควรเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อเตรียมความพร้อมการตั้งครรภ์ เพื่อตรวจหาโรคทางพันธุกรรม อาทิ ยีนธาลัสซีเมีย ที่อาจเป็นปัญหาสำหรับการตั้งครรภ์ หรือโรคติดต่อที่ต้องระมัดระวัง เช่น ไวรัสตับอักเสบ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์