ตั้งครรภ์ สัปดาห์ที่ 26 ลูกจะมีลำตัวยาวประมาณ 36 ซม. และหนักประมาณ 650 กรัม เข้าสู่ช่วงปลายของเดือนที่ 6 ในการ ตั้งครรภ์ แขนและขาของลูกมีความยาวสมส่วนกับลำตัว หัวของลูกที่โตเร็วกว่าส่วนอื่นของร่างกายตอนนี้เริ่มเจริญเติบโตช้าลง แต่ส่วนอื่นๆของร่างกายลูกกลับพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งลำตัวและศีรษะของลูกมีขนาดเท่ากับทารกครบกำหนดคลอด
ช่วงนี้คุณหมอจะตรวจดูจังหวะการเต้นของหัวใจว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ ปกติแล้วหัวใจต้องเต้นสม่ำเสมอ ความเร็วประมาณ 140-160 ครั้งต่อนาที หากทารกดิ้นดี ฟังเสียงหัวใจพบว่าปกติดี หมายความว่าลูกในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรงดี มือของทารกจะรู้จักสัมผัส ขยับได้มากขึ้น แข็งแรงขึ้น เพื่อช่วยการเคลื่อนไหวร่างกาย ขณะที่ระบบภูมิคุ้มกันของลูกเริ่มพัฒนามากขึ้น โดยร่างกายของลูกค่อยๆซึมซับแอนติบอดี้เข้าสู่รางกายเพื่อเตรียมพร้อมออกมาลืมตาดูโลก
ในส่วนของคุณแม่ อาจเริ่มรู้สึกนอนไม่ค่อยหลับ เพราะอาการปวดหลัง ปวดขา อึดอัด จากท้องที่ใหญ่ ทำให้นอนหลับได้ยากขึ้น จึงรู้สึกลำบากหากนอนหงาย แถมเปลี่ยนท่านอนก็ยากมากขึ้น อาจแก้ไขโดยสอดหมอนระหว่างเข่าเพื่อนให้นอนสบายขึ้น หรือหาหมอนรองหน้าท้องลดความอึดอัด รวมถึงอาจมีอาการตะคริวกินขา มักเป็นในช่วงกลางคืน แก้โดยเหยียดขาแล้วกดปลายเท้าเข้าหาลำตัว นอกจากนี้อาจรู้สึกปวดตั้งแต่กลางหลังไล่ลงมา เนื่องจากน้ำหนักท้องที่มากขึ้น ทำให้เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อข้อต่อต่างๆ ต้องคอยพยุงรับน้ำหนักที่มากขึ้นนี้อย่างต่อเนื่องทุกวันพยายามหาท่านั่งท่ายืนที่ช่วยให้ร่างกายสมดุล นั่งเก้าอี้ ให้ก้นชิดพนักและหลังตรง ยืนให้หลังตรง เพราะหากแอ่นหลังไปตามน้ำหนักท้องจะทำให้ปวดหลังมากขึ้น
ดังนั้น แนะนำให้คุณแม่ที่ยังต้องยืนมาก หรือนั่งนานๆ อาจมีอาการหน่วงๆที่เหนือหัวเหน่าได้ลองหาชุดชั้นในที่ตัดเย็บมาสำหรับคนท้องที่มีแผ่นรองช่วยพยุงบริเวณส่วนล่างของหน้าท้องจะช่วยบรรเทาอาการได้
สำหรับคุณแม่บางรายอาจจะมีอาการปัสสาวะเร็ดเมื่อเวลาไอหรือจาม รวมถึงปวดปัสสาวะบ่อย เนื่องจากน้ำหนักของมดลูกที่มากขึ้นก็กดทับกระเพาะปัสสาวะทำให้ปวดบ่อยๆ ป้องกันโดยควบคุมปริมาณของเหลวที่จะดื่มก่อนนอน หรือใกล้เวลานอนให้น้อยลง ส่วนน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้คุณแม่ต้องพยายามออกกำลังกายและเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการรับประทานปลา และ อาหารที่มีโอเมก้า 3 จะยิ่งช่วยพัฒนาระบบตาและการมองเห็นของลูกน้อยในครรภ์ได้เป็นอย่างดี
อนึ่ง หากลูกของคุณคลอดก่อนกำหนด ในระยะนี้ปอดก็พร้อมที่จะทำงานแล้ว แต่โอกาสรอดจะน้อยมาก เพราะยังคงจะต้องมีการพัฒนาอีกหลายส่วน
