ตั้งครรภ์ สัปดาห์ที่ 24 ทารกในครรภ์จะมีความยาวประมาณ 8 นิ้ว มีนํ้าหนักประมาณ 700 กรัม ในช่วงเดือนที่ 6 ของการ ตั้งครรภ์ สมองของทารกเติบโตอย่างรวดเร็ว ปอดของกำลังพัฒนาเพื่อเตรียมการหายใจ และเตรียมปอดในการทำหน้าที่แลกเปลี่ยนก๊าซ เริ่มมีการสร้างสารลดแรงตึงผิวเพื่อให้ปอดทำงานได้เมื่อทารกในครรภ์คลอดออกมา
ทั้งนี้ ทารกในครรภ์จะสามารถรับรู้ได้ว่าตำแหน่งของตัวเองกำลังกลับหัวลงหรือตั้งหัวขึ้น เนื่องจากหูชั้นในซึ่งควบคุมสมดุลหรือการทรงตัวได้รับการพัฒนาและสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงเริ่มมีการสร้างเม็ดเลือดขาว เพื่อช่วยต่อสู้กับโรคและการติดเชื้อ และทารกอาจตอบสนองต่อการสัมผัสและเสียง หากคุณยังไม่รู้สึกว่าทารกสะอึก คุณแม่อาจรู้สึกในขณะนี้
ในส่วนของคุณแม่ น้ำหนักตัวอาจจะเพิ่มประมาณ 0.45 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ในช่วงเดือนนี้ ในช่วงนี้แพทย์จะตรวจคัดกรองหาโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ตั้งแต่สัปดาห์นี้จนถึงสัปดาห์ที่ 28 ด้านความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ มดลูกที่โตมากขึ้นบวกกับฮอร์โมนของการตั้งครรภ์จะทำให้ลำไส้ทำงานช้าลงกว่าเดิมมาก จึงทำให้มีโอกาสท้องผูกได้ง่ายถ้าปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เป็นริดสีดวงทวารได้ง่ายควรป้องกันโดยการทานอาหารที่มีกากหรือเส้นใยสูง อาทิ ผักทุกชนิดร่วมกับการดื่มน้ำให้มาก และควรให้เวลากับการเดินออกกำลังกายหลังอาหารมากขึ้นกว่าเดิม
อาการอีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาคือ สายตาเปลี่ยน คุณแม่อาจมีอาการมองสิ่งต่างๆ เบลอๆ มัวๆ เนื่องจากฮอร์โมนแม่ท้องและการบวมน้ำส่งผลต่อดวงตาของเรา ทำให้กระจกตาของคุณลูกคลอดออกมาแล้ว นอกจากการมองไม่ชัดแล้ว ยังมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยได้ อาทิ ตาแห้งหรือระคายเคืองมากขึ้น โดยวิธีแก้อาการตาแห้งก็ง่าย ให้ซื้อน้ำตาเทียมมาหยอดก็เพียงพอแล้ว
สำหรับสิ่งที่ควรระวังในช่วงนี้คือ คุณแม่หลายคนอาจมีอารมณ์แปรปรวน รู้สึกเหงา จิตตก ฟุ้งซ่าน ไปจนถึงภาวะซึมเศร้า กับร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป หรือ กังวลกับการคลอดบุตร คุณพ่อและคนในครอบครัวต้องดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของจิตใจคุณแม่ให้มากขึ้น ทั้งการให้เวลา แสดงออกเรื่องความรัก รวมถึงการหากิจกรรมต่างๆทำร่วมกันเพื่อคลายเครียด อย่างการออกไปช้อปปิ้งซื้อของเตรียมให้ลูก การทานอาหารนอกบ้าน การตั้งชื่อลูก เป็นต้น โดยช่วงนี้คุณพ่อจะสามารถได้ยินเสียงการเต้นของหัวใจทารกด้วยการแนบหูที่หน้าท้องของคุณแม่ การทำแบบนี้บ่อยๆจะส่งผลดีต่อความรู้สึกของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์
