ช่วง ตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกิดผลข้างเคียงที่คุณแม่อาจตั้งตัวไม่ทันเลยทีเดียว โดยมีผลข้างเคียงหลายอย่าง อาทิ อึดอัด แน่นท้อง และอาจผายลมบ่อย เป็นสิว ขนขึ้น ผิวแตกลาย คลื่นไส้ อาเจียน ฯ ดังนั้น ผู้ตั้งครรภ์จึงต้องมีการการดูแลสุขภาพร่างกายมากกว่าคนทั่วไป มาดูวิธีการดูแลสุขภาพของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์กันดีกว่า
ในด้านของจิตใจ คุณแม่ส่วนใหญ่จะประสบกับปัญหาเครียด ไปจนถึงซึมเศร้า เพราะวิตกกังวลถึงการคลอดลูก ทางที่ดีควรทำจิตใจให้สบาย อย่าเครียด เนื่องจากความเครียดทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนและเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีบุตรยาก พยายามหากิจกรรมทำอย่างการออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันโรคที่ดี เพื่อความพร้อมในการตั้งครรภ์ การออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ที่เตรียมตัวตั้งครรภ์ ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดว่า ผู้ตั้งครรภ์ ออกกำลังกายไม่ได้ ทั้งๆที่จริงแล้ว ผู้หญิงท้องสามารถออกกำลังกายเบาๆ อย่างการเดิน ยืดแข้งยืดขา ไปจนถึง การเล่นโยคะ ได้
ด้านโภชนาการ ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะกรดโฟลิก และธาตุเหล็กที่เมื่อไปฝากครรภ์แพทย์จะสั่งยาในรูปยาเม็ดเฟอรัสซัลเฟตคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องเคร่งครัดในการรับประทานยาตามแพทย์สั่ง
ในส่วนของการพักผ่อน คุณแม่ต้องนอนหลับให้เพียงพอ เพราะการนอนหลับน้อยและการนอนไม่เป็นเวลาก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน ระหว่าง ตั้งครรภ์ คุณแม่ต้องไม่ทำงานหักโหม ควรมีเวลาพักระหว่างวัน 1 ชั่วโมง เพื่อผ่อนคลายจิตใจ ส่วนเสื้อผ้าการแต่งกายต้องปรับให้เหมาะสม ไม่แน่น หรืออึดอัดเกินไป รองเท้าควรเลี่ยงรองเท้าส้นสูงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ หรือ รองเท้าที่แน่นเกินไปจะทำให้เท้าและขาบวมในช่วงเดือนท้ายของการตั้งครรภ์
สำหรับข้อห้ามของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ นอกจากห้ามสูบบุหรี่ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์แล้ว อีกข้อที่ต้องระวังคืออย่านอนคว่ำ แม้ว่าการนอนคว่ำในเดือนแรกๆอาจไม่ได้ส่งผลเสียอะไร แต่เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น ท้องเริ่มใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การนอนคว่ำก็จะไม่ค่อยเหมาะนัก เนื่องจากจะทำให้คุณแม่รู้สึกแน่นท้อง อึดอัดและไม่ค่อยสบายตัวได้นั่นเอง ซึ่งท่านอนที่เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์มากที่สุด ก็คือท่านอนตะแคง เพราะจะช่วยพยุงท้องได้ดีและช่วยให้คุณแม่หายใจได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ คุณแม่ไม่ควรทานยาโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ ซึ่งการทานยาสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เนื่องจากยาบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ ยกเว้นยาพาราเซตามอล แต่ก็ไม่ควรทานมากเกินไปเช่นกัน
