ตั้งครรภ์ สัปดาห์ที่ 1 กับพัฒนาการของคุณแม่และทารก

หน้าแรก/การตั้งครรภ์/ตั้งครรภ์ สัปดาห์ที่ 1 กับพัฒนาการของคุณแม่และทารก
ตั้งครรภ์ สัปดาห์ที่ 1 กับพัฒนาการของคุณแม่และทารก

ก่อนอื่นสำหรับท่านที่ตรวจจนแน่ใจแล้วว่า ตั้งครรภ์ ขอแสดงความยินดีด้วย โดยในทางการแพทย์ จะนับการตั้งครรภ์จะนับกันตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย และจะมีการตกไข่และการปฏิสนธิใน 2 สัปดาห์หลังจากนั้น ตัวอ่อนน้อยๆ จะเริ่มเดินทางผ่านท่อนำไข่ และฝังตัวลงบนผนังมดลูกเพื่อรับสารอาหาร และค่อย ๆ เติบโตขึ้นในอีก 9 เดือนข้างหน้า

ทั้งนี้ สัปดาห์แรกของการ ตั้งครรภ์ จะเริ่มนับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายของคุณแม่ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้มีการปฏิสนธิเกิดขึ้นดังนั้นสัปดาห์ที่ 1-2 คุณแม่จะตั้งครรภ์โดยที่ยังไม่มีทารกในครรภ์เลย

ในส่วนของอาการ ตั้งครรภ์ สัปดาห์ที่ 1 ช่วงเริ่มแรกแล้วเมื่อเกิดการตั้งครรภ์คุณแม่อาจจะไม่รู้เลยแม้แต่อาการแพ้ท้องก็ยังไม่มีมาแม้แต่น้อยจะมีก็แต่อาการ ประจำเดือนขาด ปัสสาวะบ่อย รู้สึกว่าเหนื่อยง่ายกว่าปกติ จมูกไวกว่าปกติ มีความรู้สึกไวต่อกลิ่นต่างๆ มีอาการเจ็บหน้าอก รู้สึกว่าเต้านมคัด และอาจเต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย โดยคุณแม่อาจจะไม่ได้สังเกตแต่ในความเป็นจริงเจ้าลูกน้อยของคุณแม่เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการฝังตัวและเริ่มมีการเจริญเติบโตแล้ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงภายในจะมีการสร้างรก และถุงน้ำคร่ำรวมถึงสายสะดือ

สำหรับคุณแม่มีรอบประจำเดือน 28 วัน ไข่จะตกประมาณวันที่ 14 นับจากประจำเดือนวันแรก ซึ่งถ้าพบว่าก่อนและหลังไข่ตก 3 วัน ร่างกายคุณแม่จะมีความพร้อมที่สุด ช่วงไข่ตกคุณแม่สามารถสังเกตได้จากการมีมูกใสๆ ลื่นๆ คล้ายไข่ขาวออกมาทางช่องคลอด และร่างกายของคุณแม่จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าปกติ 0.5-1.5 องศาเซลเซียส ลองหาเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ โดยอมไว้ใต้ลิ้นก่อนล้างหน้าแปรงฟัน เนื่องจากการได้รู้ช่วงเวลาไข่ตกที่แน่นอน จะเพิ่มเปอร์เซ็นต์การปฏิสนธิและการตั้งครรภ์มากขึ้น

ด้านการดูแลตัวเอง ทันทีที่ทราบว่าตั้งครรภ์ ควรไปฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด โดยระหว่างที่ไปฝากครรภ์ คุณแม่สามารถถามคุณหมอถึงเรื่องที่สงสัยเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ต้องระวัง การออกกำลังกาย ขณะที่เรื่องของอาหารการกินต่างๆ ต้องงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เลิกสูบบุหรี่ โดยเด็ดขาด รวมถึงทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน