เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในขณะ ตั้งครรภ์ ทำให้ผู้หญิงอารมณ์ปรวนแปรมากกว่าเดิม เดี๋ยวเหวี่ยง เดี๋ยววีน เดี๋ยวร้องไห้ เล่นเอาคุณพ่อเอาใจไม่ถูกเลยทีเดียว แล้วคุณแม่ต้องการอะไรจากคุณพ่อกันแน่ มาดูกันเลย
1.เข้าใจความเปลี่ยนแปลงของคุณแม่ ก่อนอื่นคุณพ่อต้องทำความเข้าใจก่อนว่าอารมณ์ขึ้นๆ ลงของคุณแม่ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน โดยฮอร์โมนที่ร่างกายของคุณแม่ผลิตขึ้นในหนึ่งวันจะสสธงเท่ากับที่ร่างกายผู้หญิงปกติผลิตขึ้นมาใน 3 ปีเลยทีเดียว นั่นทำให้ไตรมาสแรกของคุณแม่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่แปรปรวนยิ่งกว่าคลื่นในทะเลเสียอีก แต่โชคยังดี ที่พอเข้าไตรมาสที่สอง ร่างกายของคุณแม่จะปรับตัวเข้ากับฮอร์โมนจำนวนมหาศาลนี้ได้ ทำให้อารมณ์ของคุณแม่สงบลงบ้างแต่พอเข้าไตรมาสท่สามคุณแม่ก็จะเริ่มวิตกกังวลอีก และโดยมากจะวิตกกังวลเรื่องของการคลอดนั่นเอง
2.ฟัง คำว่า ‘ฟัง’ ถึงจะเป็นคำสั้นๆ แต่มีความหมายกับคุณแม่มาก ทุกครั้งที่คุณแม่เหวี่ยงวีน หรือบ่นอะไรยืดยาว คุณพ่อต้องฟังอย่างตั้งใจโดยไม่ตัดสินว่าอะไรถูกผิดทั้งนั้น ในการฟังจะต้องฟังจนรู้ว่าคุณแม่รู้สึกอย่างไร หากคุณพ่ออยากพูดอะไร ให้บอกว่า “พ่อรู้ว่าแม่…” แล้วต่อด้วยชื่อความรู้สึกของคุณแม่ในขณะนั้น หรือพูดว่า “มันน่า…” ต่อด้วยชื่อความรู้สึก เช่น คุณแม่บ่นเรื่องรถติด คุณพ่อก็อาจจะบอกว่ามันน่าหงุดหงิดมากๆ เลยใช่ไหม หรือถ้าคุณแม่ต่อว่าคุณพ่อที่กลับบ้านดึก คุณพ่อก็อาจจะบอกว่า พ่อรู้ว่าแม่เป็นห่วงพ่อมาก และแม่อยากให้พ่ออยู่เป็นเพื่อนตอนที่แม่เหงา เพราะอยู่บ้านคนเดียวมันเหงามากเลยใช่ไหมล่ะ
3.ไม่ต้องหาทางแก้ไข แค่กอดก็เกินพอ การอธิบายหรือหาทางแก้ไขนับเป็นหายนะ เพราะนั่นจะยิ่งทำให้คุณแม่อารมณ์เสีย หากคุณแม่หงุดหงิด เหวี่ยงวีน คุณพ่อต้องทำตามข้อ 2 แต่ถ้าคุณแม่ร้องไห้ สิ่งเดียวที่ช่วยได้มาก คือ การกอด คุณพ่ออาจจะกอดและลูบหลังคุณแม่เบาๆ รอจนกว่าอารมณ์ของคุณแม่จะดิ่งลงจนถึงจุดต่ำสุดแล้ว มันก็จะดีขึ้นมาเอง ที่สำคัญก็คืออย่าขัดขวางหรือพยายามหยุดการร้องไห้เด็ดขาด
4.เตรียมตัวคลอดไปกับคุณแม่ เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 อาหารเกวี่ยงวีนและเศร้าของคุณแม่จะหายไปแล้ว เปลี่ยนมาเป็นความกังวลเรื่องการคลอด คุณพ่อควรช่วยคุณแม่เตรียมการคลอด ไม่ว่าจะเป็นการดูคลิปฝึกคลอด หรือเข้าคลอสฝึกคลอดด้วยกัน ตลอดจนหาข้อมูลต่างๆ มาเล่าสู่กันฟัง การเตรียมพร้อมของคุณพ่อจะช่วยให้คุณแม่อุ่นใจขึ้นมาก และอย่ากล่าวหาว่าการเตรียมตัวของคุณแม่เป็นเรื่องเกินความจำเป็น
ทำครบทั้ง 4 ข้อนี้แล้ว รับรองได้เลยว่าคุณพ่อจะเป็นฮีโร่ที่ช่วยประคับประคองคุณแม่ให้ผ่านมรสุมจากการตั้งครรภ์ไปได้อย่างแน่นนอน
