คำแนะนำในการออกกำลังกายของคุณแม่ ตั้งครรภ์

หน้าแรก/การตั้งครรภ์/คำแนะนำในการออกกำลังกายของคุณแม่ ตั้งครรภ์
คำแนะนำในการออกกำลังกายของคุณแม่ ตั้งครรภ์

ในการออกกำลังกายสำหรับคุณแม่ ตั้งครรภ์ เป็นเรื่องดีที่สมควรอย่างยิ่งแต่หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในครรภ์ซึ่งจะต้องได้รับการดูแลใส่ใจมากเป็นพิเศษเช่นกัน ดังนั้นเวลาที่คุณแม่จะออกกำลังกายในแต่ละครั้ง จะต้องมีการระมัดระวังในการออกกำลังกายด้วย เรามีคำแนะนำดี ๆ มาฝากคุณแม่ตั้งครรภ์กันนะคะ

1.เลือกเวลาที่เหมาะสมในการออกกำลังกาย คือในช่วง 3 เดือนแรก ถ้าคุณแม่ไม่มีอาการแพ้ท้องสามารถ ยืดเส้นยืดสาย ออกกำลังกายได้เล็กน้อย เพื่อคลายความเครียดได้ แต่ เมื่อพ้น 3 เดือนแรกแล้ว คุณแม่จะเริ่มมีอาการดีขึ้น ไม่ค่อยมีอาการแพ้ท้องแล้ว คุณแม่สามารถออกกำลังกายได้ทุกวัน หรืออย่างน้อยวันละ 20-30 นาที สัปดาห์ละ 3-4 วัน เพียงพอ

2.แนะนำการออกกำลังกาย คือ
a.ท่าเดิน เป็นวิธีที่ง่ายและดีเลิศสำหรับคุณแม่
b.การเต้นรำ ควรเต้นในท่าเบาๆ ไม่เคลื่อนไหวเร็วไป
c.การเล่นโยคะ เพื่อให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นและผ่อนคลายได้ แต่ต้องเล่นตามครูฝึกสอนแนะนำท่าสำหรับคนท้อง
d.การว่ายน้ำ ทำให้กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายแข็งแรง
e.การขี่เครื่องจักรยาน คุณแม่ควรค่อยๆเริ่มขี่เครื่องจักรยานเบา ๆ ช้า ๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรง ทรงตัวและรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้
โดยเฉพาะการว่ายน้ำ เป็นการออกกำลังกายที่ทำให้ลูกน้อยรู้สึกผ่อนคลายสบายตัวได้ดี แต่ข้อควรระวังสำหรับการว่ายน้ำ คุณแม่ไม่ควรว่ายน้ำในสระที่เย็นจัดเพราะอาจทำให้คุณแม่เป็นตะคริวได้ และไม่ควรดำน้ำเพราะอัตราการแท้งสูงและลูกที่คลอดออกมาจะมีน้ำหนักตัวน้อย และเลือกว่ายน้ำในสระน้ำมาตราฐาน การว่ายน้ำแต่ละครั้งสัก 15-20 นาทีเพียงพอ

3.กลุ่มเฉพาะคุณแม่ที่ห้ามออกกำลังกาย โดยปกติแล้วจะห้ามเฉพาะคุณแม่ที่อยู่ในข่ายมีโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มีประวัติการแท้งบุตร ครรภ์เป็นพิษ หรือ คลอดก่อนกำหนด เหล่านี้ห้ามออกกำลังกายเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้ หรือถ้าอยากออกกำลังกาย ขอให้ปรึกษาและทำตามคำแนะนำของคุณหมอเท่านั้น

4.ไม่ควรออกกำลังกายนานเกินไป คือคุณแม่ต้องออกกำลังกายในเวลาที่พอเหมาะไม่มากเกินไป จนรู้สึกเหนื่อย เพราะจะทำให้ร่างกายขับของเสียออกมาในกระแสเลือดมากกว่าปกติ เลือดจะเลี้ยงมดลูกได้น้อยลง การออกกำลังกายไม่ควรทำให้ชีพจรเต้นเร็วเกิน 120 ครั้งต่อนาที หากชีพจรเต้นเร็วเกินไปอาจเกิดอันตรายได้

5.การหายใจ ในขณะออกกำลังกาย ต้องหายใจอย่างสม่ำเสมอ อย่ากลั้นหายใจ เพราะจะทำให้ลูกน้อยในครรภ์ได้รับออกซิเจนน้อยลง

6.หลีกเหลี่ยงการทำงานอย่างหักโหม คุณแม่สายสตรองไม่ควรทำงานบ้านหนักเกินไป หาเวลาพักผ่อนได้ด้วยการนอนราบ ค่อยๆยกขาทั้งสองข้างขึ้นพิงกำแพง สันเท้ายันกำแพง อยู่สู.จากพื้นราบประมาณ 1 ฟุต วิธีนี้จะช่วยลดการคั่งของเลือดที่ไปเลี้ยงที่ขาได้ดี และอีกวิธีที่จะช่วยให้คุณแม่ไม่ต้องรับน้ำหนักของมดลูกซึ่งกดทับอยู่ คือนอนราบและหาหมอนมาหนุนที่น่องหรือหนุนปลายเท้า นอนพักผ่อนบ้างจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน

ข้อควรระวัง เพียงแค่ขอให้คุณแม่ตั้งครรภ์ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูกน้อย